ราคาทองคำ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย
หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กำหนดภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมใหม่ 25% ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าและภาวะเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้น
ข้อมูลพื้นฐานสำคับของทองคำ
- ราคาทองคำ gold spot เพิ่มขึ้น 0.4% อยู่ที่ 2,919.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,921.15 ดอลลาร์ ก่อนหน้านี้ในช่วงการซื้อขาย
- ทองคำล่วงหน้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 2,944.40 ดอลลาร์
- ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมอย่างมีนัยสำคัญเมื่อวันจันทร์ เป็นอัตราคงที่ 25% “โดยไม่มีข้อยกเว้นหรือการยกเว้น” ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมที่กำลังประสบปัญหา แต่กลับเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสงครามการค้าหลายแนวรบ
- ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 8 ในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากคำขู่เรื่องภาษีของทรัมป์ ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ความกังวลเรื่องสงครามการค้า และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
- ภัยคุกคามดังกล่าวได้จุดชนวนให้เกิดการแห่กันมาซื้อทองอีกครั้ง ส่งผลให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย พุ่งสูงขึ้นไปอีก และทำให้ความคาดหวังที่ราคาทองคำจะไปแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์ เป็นไปได้สูงมาก
- ภาษีศุลกากรอาจทำให้เงินเฟ้อของสหรัฐฯ รุนแรงขึ้น โดยนักลงทุนรอข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันพุธ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ มีกำหนดเข้าให้การเป็นพยานต่อรัฐสภาในวันอังคารและวันพุธ
- ในด้านภูมิรัฐศาสตร์ ฮามาสประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า จะหยุดปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอล จนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบเป็นอย่างอื่น เนื่องจากกลุ่มก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์กล่าวว่า อิสราเอลละเมิดข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่ความขัดแย้งจะปะทุขึ้นอีกครั้ง
- วันนี้ (11ก.พ.) ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจหรือข้อมูลเหตุการณ์สำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Thomson Reuters)