บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 14 ก.ย.64 by HGF
โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
ทองคำปรับขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
คืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนส.ค.
ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,780-1,800 ดอลลาร์
- ราคาทองคำSpot เมื่อวานปรับขึ้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ดีการแข็งค่าของเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำและทำให้ราคาทองคำไม่สามารถยืนที่เหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ได้ ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ซื้อทองคำ2.04 ตันเมื่อวาน หลังจากขายทองคำ 0.35 ตันโดยในสัปดาห์ผ่านมา
- คืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนส.ค. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบรายปี หลังจากสหรัฐประกาศดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบรายปีซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐยังคงเร่งตัวสูงขึ้นและอาจจะทำให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดจะเร่งปรับลดวงเงินมาตรการ QE และเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ1,780-1,800 ดอลลาร์ซึ่งทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,780 ดอลลาร์และ 1,770 ดอลลาร์ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,800 ดอลลาร์และ 1,810-1,815 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,793.30 | +5.78 | 1,780/1,770 | 1,800/1,810 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
27,850 | +50 | 27,700/27,550 | 27,900/28,050 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
28,030 | +30 | 27,820/27,700 | 28,050/28,200 |
เทรดดิ้งระยะสั้นแนะนำซื้อขายตามกรอบราคาทอง Spot ระหว่าง 1,780-1,800ดอลลาร์(GF27,820-28,050บาท) รวมทั้งแนะนำเปิดสถานะขายเมื่อราคาทอง Spot ปรับขึ้นมาที่บริเวณ 1,810ดอลลาร์ (GF 28,200บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,815ดอลลาร์ (GF 28,260บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,794.20 | +3.80 | 1,781/1,771 | 1,801/1,811 |
เทรดดิ้งระยะสั้นแนะนำซื้อขายตามกรอบราคา GOU21ระหว่าง 1,781-1,801ดอลลาร์รวมทั้งแนะนำเปิดสถานะขายเมื่อราคา GOU21ปรับขึ้นมาที่บริเวณ 1,811ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,816ดอลลาร์
ค่าเงิน
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดอ่อนค่าลงเล็กน้อยทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐในวันนี้ เพื่อจับทิศทางอัตราเงินเฟ้อและแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ซึ่งUSD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.80 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน32.90-33บาท/ดอลลา
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์แข็งค่าก่อนสหรัฐเผยดัชนีCPI วันนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (13 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันนี้เพื่อจับทิศทางอัตราเงินเฟ้อและแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.11% แตะที่ 92.6755 เมื่อคืนนี้
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก $2.3 วิตกไวรัสเดลตาหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา (13 ก.ย.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างไรก็ดีการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัดแรงบวกในตลาดและทำให้สัญญาไม่สามารถยืนที่เหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.3 ดอลลาร์หรือ 0.13% ปิดที่ 1,794.4 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 10.4 เซนต์หรือ 0.44% ปิดที่ 23.796 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดบวก 73 เซนต์รับข่าวพายุกระทบการผลิตน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 70 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 6 สัปดาห์เมื่อคืนที่ผ่านมา (13 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่าแหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกยังคงได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนไอดานอกจากนี้ตลาดยังคาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันในรัฐเท็กซัสอาจได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนนิโคลัสที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 73 เซนต์หรือ 1.1% ปิดที่ 70.45 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค.ปีนี้สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 59 เซนต์หรือ 0.8% ปิดที่ 73.51 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.ปีนี้
ตลาดหุ้นต่างประเทศ : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 261.91 จุดรับแรงซื้อหุ้นพลังงาน-จับตาCPI สหรัฐ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (13 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานรวมทั้งหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจเช่นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญและกลุ่มสายการบินขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้รวมทั้งการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย. ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,869.63 จุดเพิ่มขึ้น 261.91 จุดหรือ + 0.76% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,468.73 จุดเพิ่มขึ้น 10.15 จุดหรือ + 0.23% ดัชนีNasdaqปิดที่ 15,105.58 จุดลดลง 9.91 จุดหรือ -0.07%
สื่อสหรัฐจับตาประชุมเฟด21-22ก.ย.นี้คาดส่งสัญญาณลดQE เดือนพ.ย.
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลคาดการณ์ว่าเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะพยายามหาทางบรรลุข้อตกลงในการเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนพ.ย. ในการประชุมซึ่งจะมีขึ้นในวันที่21-22ก.ย.นี้วอลล์สตรีทเจอร์นัลคาดการณ์ว่านายเจอโรมพาวเวลประธานเฟดอาจใช้โอกาสในการประชุมวันที่21-22ก.ย.นี้เพื่อส่งสัญญาณว่าคณะกรรมการเฟดจะเริ่มกระบวนการปรับลดวงเงินQE ในการประชุมนัดถัดไปในวันที่2-3พ.ย.นี้วอลล์สตรีทเจอร์นัลยังระบุด้วยว่าภายใต้แผนการที่เริ่มชัดเจนขึ้นคณะกรรมการเฟดอาจปรับลดวงเงินQE อย่างค่อยเป็นค่อยไปจนสามารถยุติการทำQE ได้ทั้งหมดภายในช่วงกลางปี2565 ที่ผ่านมานั้นเฟดได้ให้คำมั่นว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้0%และจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการQE ต่อไปอย่างน้อยในระดับปัจจุบันที่1.2แสนล้านดอลลาร์/เดือนจนกว่าการจ้างงานและเงินเฟ้อจะขยายตัวอย่างยั่งยืนทางด้านคณะกรรมการเฟดหลายรายได้ให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆนี้ว่าเฟดอาจเริ่มปรับลดวงเงินQE ในปีนี้ซึ่งรวมถึงนางลอเรตตาเมสเตอร์ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ซึ่งสนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงินQE ในปีนี้แม้สหรัฐมีการจ้างงานที่อ่อนแอในเดือนส.ค.ก็ตาม
เกาหลีเหนืออ้างประสบความสำเร็จทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลรุ่นใหม่
สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานในวันนี้ว่าเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการทดสอบยิงขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล (long-range cruise missile) รุ่นใหม่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยขีปนาวุธรุ่นใหม่ซึ่งพัฒนาโดยสถาบันวิทยาศาสตร์ด้านกลาโหมของเกาหลีเหนือนั้นสามารถทำลายเป้าหมายที่อยู่ไกลประมาณ1,500กิโลเมตร (930ไมล์)
KCNA ระบุว่าเกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบยิงขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลรุ่นใหม่เมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยขีปนาวุธดังกล่าวได้รับการยืนยันในด้านประสิทธิภาพและความแม่นยำพร้อมระบุว่าเกาหลีเหนือมีความคืบหน้าอย่างมากในการพัฒนาขีปนาวุธในช่วง2ปีที่ผ่านมาการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เกาหลีเหนือได้แสดงท่าทีไม่พอใจสหรัฐที่เดินหน้าซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้โดยเมื่อไม่นานมานี้นายคิมยงชอลเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือได้ออกมาเตือนว่าเกาหลีใต้และสหรัฐตอบแทนความหวังดีของเกาหลีเหนือด้วย “การกระทำอันเป็นปรปักษ์” และยังกล่าวด้วยว่าเกาหลีใต้เลือกที่จะพลาดโอกาสในการยกระดับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น
อดีตทูตสหรัฐคาดจีนจะรักษาสัมพันธ์กับกลุ่มตาลีบันอย่างระมัดระวัง
อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงปักกิ่งคาดการณ์ว่าจีนจะรักษาความสัมพันธ์กับอัฟกานิสถานอย่างระมัดระวังและเป้าหมายหลักของจีนคือการร่วมมือกับกลุ่มตาลีบันในการรักษาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนนายแม็กซ์เบาคัสอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศจีนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า “จีนจะไม่พยายามเข้ายึดครองอัฟกานิสถานเหมือนที่ประเทศอื่นๆรวมถึงสหรัฐเคยทำ” พร้อมเสริมว่าจีนกังวลเกี่ยวกับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่อาจใช้อัฟกานิสถานเป็นฐานที่มั่นความกังวลหลักของจีนคือเตอร์กิสถานตะวันออกซึ่งรัฐบาลจีนจะร่วมมือกับกลุ่มตาลีบันเพื่อสร้างหลักประกันว่าอัตราการก่อการร้ายในอัฟกานิสถานจะอยู่ในระดับที่ต่ำมากโดยเขากล่าวถึงกลุ่มหัวรุนแรงอุยกูร์ภายใต้ชื่อขบวนการอิสลามเตอร์กิสถานตะวันออก (East Turkestan Islamic Movement)อดีตเอกอัครราชทูตกล่าวเสริมว่าพัฒนาการในอัฟกานิสถานจะเป็นบททดสอบของสหรัฐในขณะที่อิทธิพลทางการทหารและการเมืองของสหรัฐลดลงในเวทีโลกหลังจากที่ถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานส่งผลให้ประเทศอื่นๆเช่นจีนเข้ามาเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว “นี่จะเป็นการทดสอบสหรัฐ” นายเบาคัสกล่าว “เรายังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนสำหรับจีนและการถอนตัวครั้งนี้จะทำให้การพัฒนานโยบายเชิงกลยุทธ์ที่มีต่อจีนมีความซับซ้อนมากขึ้น”