บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 6 ก.ย.64 by HGF
โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
ทองคำขึ้นแรงการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐต่ำกว่าตลาด
สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยรายงาน Beige Book
ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหว Sideways up
- ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำSpot เคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ หลังจากสหรัฐประกาศการจ้างงานภาคเอกชน ADP เดือนส.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 374,000 ตำแหน่งต่ำกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 640,000 ตำแหน่ง แต่ในวันศุกร์ราคาทองคำปรับขึ้นแรงเนื่องจากการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งต่ำกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 720,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เดือนก.ค.เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 1,053,000 ตำแหน่ง ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 โดยขายทองคำ 3.2 ตันในสัปดาห์ผ่านมา
- สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด12 เขต (Beige Book) ก่อนที่จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย. การประชุมธนาคารกลางยุโรป ซึ่งคาดจะมีมติผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป และอาจจะไม่ค่อยมีผลกระทบต่อราคาทองคำ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ได้แก่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนส.ค.และจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครเดือนก.ค.
- แนวโน้มราคาทองคำSpot คาดจะเคลื่อนไหว Sideways up โดยมีแนวต้านสำคัญ 1,833 ดอลลาร์ ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,850 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,810 ดอลลาร์และ 1,800 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,826.10 | +17.69 | 1,810/1,800 | 1,833/1,850 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
28,050 | +100 | 27,800/27,650 | 28,150/28,350 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
28,240 | +130 | 27,940/27,800 | 28,300/28,510 |
การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคาทองคำ Spot1,810ดอลลาร์ (GF27,940 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,800ดอลลาร์(GF27,800 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,829.70 | +15.80 | 1,811/1,801 | 1,834/1,851 |
การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคา GOU211,811ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,801ดอลลาร์
ค่าเงิน
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าขึ้น ทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเนื่องจากการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งต่ำกว่าตลาดคาดสำหรับ USD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.35 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 32.60บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนค่าผิดหวังตัวเลขจ้างงานสหรัฐต่ำกว่าคาด
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอซึ่งทำให้บรรดานักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่มีแนวโน้มที่จะประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเดือนนี้ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.21% สู่ระดับ 92.0327
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดพุ่ง 22.2 ดอลล์รับแรงซื้อหลังสหรัฐเผยจ้างงานซบเซา
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนได้พากันเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 22.2 ดอลลาร์หรือ 1.23% ปิดที่ 1,833.7 ดอลลาร์/ออนซ์และปรับตัวขึ้นราว 0.8% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 88.4 เซนต์หรือ 3.7% ปิดที่ 24.802 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดลบ 70 เซนต์ตัวเลขจ้างงานต่ำกว่าคาดกดดันตลาด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาดซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความต้องการใช้น้ำมันจะยังคงถูกกดดันในระยะสั้นสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 70 เซนต์หรือ 1% ปิดที่ 69.29 ดอลลาร์/บาร์เรลแต่ปรับตัวขึ้น 0.8% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 42 เซนต์หรือ 0.6% ปิดที่ 72.61 ดอลลาร์/บาร์เรลแต่ปรับตัวขึ้น 1.3% ในรอบสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดลบ 74.73 จุดผิดหวังตัวเลขจ้างงานต่ำกว่าคาด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาดซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสสายพันธุ์เดลตาดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,369.09 จุดลดลง 74.73 จุดหรือ -0.21% และดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,535.43 จุดลดลง 1.52 จุดหรือ -0.03% ส่วนดัชนีNasdaq ปิดที่ 15,363.52 จุดเพิ่มขึ้น 32.34 จุดหรือ +0.21% ในรอบสัปดาห์นี้ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.2% ขณะที่ดัชนีS&P500 และNasdaq ปรับตัวขึ้น 0.6% และ 1.6% ตามลำดับ
เฟาชีชี้โควิดสายพันธุ์ “มิว” ยังไม่ใช่ภัยคุกคามของสหรัฐในขณะนี้
นายแอนโทนีเฟาชีผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID) และหัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์แห่งทำเนียบขาวระบุว่าโควิด-19สายพันธุ์ใหม่อย่าง “มิว” ยังไม่ใช่ภัยคุกคามของสหรัฐในขณะนี้ “เราให้ความสนใจกับเรื่องนี้อย่างจริงจังแต่เรายังไม่ถือว่าสายพันธุ์ดังกล่าวเป็นภัยคุกคามเร่งด่วน” นายเฟาชีกล่าวโควิด-19สายพันธุ์มิวหรือมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่าB.1.621ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในรายชื่อสายพันธุ์โควิด-19ที่ “น่าสนใจ” ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเฟาชีกล่าวว่า “เชื้อไวรัสโควิด-19สายพันธุ์ใหม่นี้มีกลุ่มของการกลายพันธุ์ที่แสดงให้เห็นว่ามันสามารถหลีกเลี่ยงแอนติบอดีบางชนิดได้ไม่เพียงแต่โมโนโคลนัลแอนติบอดี (Monoclonal Antibodies) เท่านั้นแต่ยังรวมถึงแอนติบอดีที่เกิดจากวัคซีนอย่างไรก็ตามเรายังมีข้อมูลทางคลินิกไม่มากนักโดยส่วนใหญ่เป็นข้อมูลจากหลอดทดลองในห้องปฏิบัติการ” แม้ว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19จะถูกสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงสายพันธุ์โควิดดั้งเดิมแต่วัคซีนก็ยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันสายพันธุ์เดลตาอย่างมาก “แม้ว่าคุณจะเผชิญกับโควิด-19สายพันธุ์ใหม่ที่ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงบ้างแต่วัคซีนก็ยังคงถือว่าค่อนข้างมีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ที่พบในเวลานั้น” นายเฟาชีกล่าวทั้งนี้WHO เปิดเผยว่าไวรัสโควิด-19สายพันธุ์มิวถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในโคลัมเบียและได้รับการยืนยันในอย่างน้อย39ประเทศ
“เฟาชี” ออกโรงหนุนวัคซีนบูสเตอร์คาดฉีด3เข็มจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่
นายแพทย์แอนโทนีเฟาชีแพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19ของทำเนียบขาวออกมาให้ความเห็นสนับสนุนการที่รัฐบาลสหรัฐแนะนำให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19เข็มที่3หรือวัคซีนบูสเตอร์เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายนายแพทย์เฟาชีกล่าวว่าเขาจะไม่แปลกใจเลยหากมีการปรับเปลี่ยนคำแนะนำในการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์และของโมเดอร์นาให้การฉีดวัคซีน3โดสจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่แทนที่จะเป็น2โดสโดยเขาระบุว่าการฉีดวัคซีนเพิ่มเติมให้กับประชาชนหลังจากได้รับวัคซีน2โดสแรกมาแล้วเป็นเวลาหลายเดือนจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันพัฒนาขึ้นได้ทั้งนี้การตัดสินใจเรื่องมาตรฐานการฉีดวัคซีนนั้นเป็นอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) และหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลแต่นายแพทย์เฟาชีก็กล่าวเสริมว่าการอนุมานว่าการฉีดวัคซีน3โดสจะทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันมากขึ้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลนายแพทย์เฟาชีนำเสนอข้อมูลวิจัยจากอิสราเอลที่ระบุว่าภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อเชื้อไวรัสโควิด-19จะเริ่มอ่อนแอลงหลังผ่านไป8เดือนซึ่งเป็นเหตุผลสนับสนุนให้มีการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมินอกจากนี้นายแพทย์เฟาชียังกล่าวว่าภูมิคุ้มกันที่ได้จากการฉีดวัคซีนเข็มที่3นั้นอยู่ในระดับสูงและคงอยู่ได้นานโดยงานวิจัยจากอิสราเอลฉบับหนึ่งเผยว่าในเวลา3สัปดาห์หลังจากได้รับวัคซีนโดสที่3ความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19ลดลงมากถึง84%เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีน2โดส
“ทาโรโคโนะ” ประกาศลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคLDP หลังซูงะถอนตัว
นายทาโรโคโนะรัฐมนตรีซึ่งกำกับดูแลด้านการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่าเขามีความประสงค์ที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ขณะที่นายโยชิฮิเดะซูงะนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นส่งสัญญาณว่าจะลาออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศนายโคโนะซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมถือเป็นนักการเมืองอีกรายหนึ่งที่มีแนวโน้มที่จะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นตามผลสำรวจความคิดเห็นของสื่อ