ราคาทอง 20/2/68
โดย : บริษัท ออสสิริส จำกัด
ราคาทองโลกพุ่ง
เดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ในประวัติศาสตร์ ที่ 2,947 โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนที่ยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้น จากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลทรัมป์
ล่าสุดอาจเดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าประเภทรถยนต์ Semiconductor และยา ในวันที่ 2 เม.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ เข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง และความกังวลในด้านภูมิรัฐศาสตร์หลัง EU เห็นชอบมาตรการคว่ำบาตรชุดที่ 16 ต่อรัสเซีย มาตรการรอบนี้ประกอบด้วยการสั่งห้ามนำเข้าอะลูมิเนียมจากรัสเซีย และการขึ้นบัญชีรายชื่อ “กองเรือเงา เรือบรรทุกน้ำมันเก่าที่ถูกนำมาใช้ลักลอบขนส่งน้ำมันเพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย) เพิ่มอีก 73 ลำ
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น (Bullish Trend) ในภาพรวมใหญ่
โดยยังรักษาการเคลื่อนไหวเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลาย ยังสะท้อนขาขึ้นหรือขาซื้อยังได้เปรียบตลาด ขณะที่รูปแบบการเคลื่อนที่ทางเทคนิค ทองคำได้สร้างรูปแบบที่เรียกว่า Bull Flag ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่ยังคงแข็งแกร่ง
โดยมีการพักตัวหรือ sideway ก่อนที่จะมีการทะลุขึ้นไปอีกครั้ง โดยมีปัจจัยพื้นฐานที่สนับสนุนเช่น ความไม่แน่นอนของทรัมป์ 2.0 มีแนวรับสำคัญที่ 2,910-2,865 ส่วนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 2,925 หากยืนเหนือโซนดังกล่าวได้ทองมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อโดยมีเป้าหมายถัดไปแถว 2,943-2,960
แนวโน้มกลยุทธ์การเทรด
✅ ระยะสั้น: หากราคายืนเหนือ 2,935-2,925 ดอลลาร์ สามารถเข้าซื้อเพื่อทำกำไรที่แนวต้าน 2,943-2,960 ดอลลาร์
✅ ระยะกลาง: หากราคาปรับฐานมายัง 2,910-2,875 ดอลลาร์ อาจเป็นโอกาสซื้อสะสม
✅ ระยะยาว: หากราคาทะลุ 2,943 ดอลลาร์ อาจเห็นการทดสอบแนวต้าน 2,960-3,000ดอลลาร์
กลยุทธการลงทุนทองคำ
ราคาทองโลก (Gold Spot):
แนวรับ 2,935/2,925/2,910 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวต้าน 2,943/2,960/2,975 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำทองคำแท่งน้ำหนัก 1 บาท 96.5%:
แนวรับ 46,800/46,700/46,500บาท
แนวต้าน 46,850/46,700/46,850บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดอยู่ที่ระดับ 4.25-4.50%