ราคาทอง 11 เม.ย.68
โดย : บริษัท ออสสิริส จำกัด
ราคาทองโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะลุ 3,200 ดอลลาร์
หนุนราคาทองคำแท่ง 96.5% น้ำหนัก 1 บาท ทะลุ 51,000 บาท โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
หลังสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น จากการที่ทรัมป์ประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสู่ระดับ 125% ในวันพุธที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังเก็บภาษีเพิ่มในอัตรา 20% เพื่อลงโทษจีนที่ไม่ได้สกัดการไหลทะลักของยาเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้ขณะนี้สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 145%
นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 18-19 มี.ค. โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูงและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
นอกจากนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนมิ.ย. และมีความเป็นไปได้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวมทั้งสิ้น 1% ภายในสิ้นปีนี้
ข้อมูลเทคนิค (Technical Analysis)
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น (Bullish Trend) ในภาพรวมใหญ่ในระยะกลางถึงยาว รวมถึงระยะสั้น แรงซื้อล่าสุดสามารถเบรคแนวต้านที่ระดับ 3,200 ดอลลาร์ทำให้ราคาทองโลกกลับมาเคลื่อนไหวสูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลาย ทำให้สถานะฝั่ง Buy กลับมาได้เปรียบตลาดโดยมีเป้าเหมายถัดไปที่ระดับ 3,225-3,250 ดอลลาร์ ในทางเทคนิค กราฟรายวันของคู่สกุลเงิน XAU/USD แสดงให้เห็นว่ามีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้อีก เนื่องจากโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ยังห่างไกลจากระดับซื้อมากเกินไป
กลยุทธการลงทุน
1. นักลงทุนระยะสั้น
- รอจังหวะซื้อเมื่อราคาทรงตัว:
หากทองคำโลกหลุด 3,200 ดอลลาร์ และเข้าใกล้แนวรับสำคัญ เช่น 3,167ดอลลาร์
(หรือทองไทยราว 50,800-50,600บาท) ให้รอสัญญาณกลับตัวก่อนเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร
เป้าหมายกำไร: ขายทำกำไรที่ 3,225-3,250ดอลลาร์ (ทองไทย 51,300-51,500บาท)
2. นักลงทุนระยะยาว
- สะสมทองคำเมื่อราคาย่อ:
ระดับราคาทองไทยต่ำกว่า 50,000 บาท (เช่น 47,000-49,000 บาท) ถือเป็นโอกาสสะสมสำหรับถือยาว เพราะทองคำยังมีศักยภาพขาขึ้นในภาพใหญ่จาก ความไม่แน่นอนของสงครามการค้าและนโยบายทรัมป์,เงินเฟ้อที่อาจพุ่งขึ้นในอนาคตจากต้นทุนสินค้านำเข้า และคาดว่าราคาอาจกลับไปทดสอบ 51,000-55,000 บาทใน 6-12 เดือน หากวิกฤตทวีความรุนแรงมากขึ้น
กลยุทธการลงทุนทองคำ
ราคาทองโลก (Gold Spot):
แนวรับ 3,167/3,150/3,137 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวต้าน 3,205/3,220/3,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำทองคำแท่งน้ำหนัก 1 บาท 96.5%:
แนวรับ 50,750/50,500/50,300บาท
แนวต้าน 51,100/51,200/51,500บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดอยู่ที่ระดับ 4.25-4.50%