ราคาทอง 7/6/66
โดย : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS GOLD)
ภาพรวมตลาดทองคำเมื่อวานนี้เคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 1,954-1,966 เหรียญ
ขณะที่กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้มีการขายออก 1.45 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 938.11 ตัน
วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Trade Balance และ Crude Oil Inventories คาดการณ์ออกมาลดลงจากเดิม
ราคาน้ำมันตลาดโลกยังทรงตัวอยู่แถวบริเวณ 72 เหรียญต่อบาร์เรล แม้ว่าซาอุดีอาระเบียจะประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 9 ล้านบาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นการปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี จากอุปสงค์ที่อ่อนแอลง
แนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯและยุโรป ด้านค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าลงมาเล็กน้อยจาก 34.86 บาทต่อดอลลาร์ ลงมาที่ 34.78 บาทต่อดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทองไทยปรับตัวสูงขึ้นกลับมายืนอยู่ที่ระดับ 32,200 บาทต่อบาททองคำได้อีกครั้ง
ราคาทองตลาดโลกเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบแถวเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง ขณะที่ทางด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถบรรลุขยายเพดานหนี้ได้สำเร็จ รวมถึงสหรัฐฯ จะออกพันธบัตรรัฐบาลรอบใหม่จำนวน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสภาวะเงินตึงตัวต่อเนื่องจากค่าใช้จ่ายของรัฐบาลที่ยังสูงอยู่มาก
ภาพรวมตลาดยังคงรอคอยความชัดเจนของการตัดสินใจนโยบายการเงินของเฟดที่จะมีขึ้นในการประชุมวันที่ 13-14 มิถุนายนนี้
วิเคราะห์ราคาทอง
ภาพรวมราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ Sideways แคบๆ โดยยังไม่มีประเด็นใหม่ที่ส่งผลต่อราคาทองคำ สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแนวรับที่ 1,950 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,975 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,960 เหรียญ และแนวต้าน 1,985 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,965 เหรียญ และแนวต้าน 1,990 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 32,000 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 32,500 บาท/บาททองคำ
กลยุทธ์การลงทุนทองคำ
แนะนำลงทุนในกรอบ Sideways ตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน ลงซื้อขึ้นขาย ระวังความผันผวนของราคา
– นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับเมื่อราคาอ่อนตัว และปิดทำกำไรตามแนวต้าน เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
– นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน และปิดทำกำไรตามแนวรับ ระวังความผันผวนของราคา