GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 6 ก.ย.64 by HGF

478

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำขึ้นแรงการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐต่ำกว่าตลาด

สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยรายงาน Beige Book

ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหว Sideways up

  • ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำSpot เคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอติดตามการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ หลังจากสหรัฐประกาศการจ้างงานภาคเอกชน ADP เดือนส.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 374,000 ตำแหน่งต่ำกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 640,000 ตำแหน่ง แต่ในวันศุกร์ราคาทองคำปรับขึ้นแรงเนื่องจากการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งต่ำกว่าตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 720,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เดือนก.ค.เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง 1,053,000 ตำแหน่ง ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 โดยขายทองคำ 3.2 ตันในสัปดาห์ผ่านมา
  • สัปดาห์นี้ติดตามการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด12 เขต  (Beige Book) ก่อนที่จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย. การประชุมธนาคารกลางยุโรป ซึ่งคาดจะมีมติผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป และอาจจะไม่ค่อยมีผลกระทบต่อราคาทองคำ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ได้แก่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนส.ค.และจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครเดือนก.ค.
  • แนวโน้มราคาทองคำSpot คาดจะเคลื่อนไหว Sideways up โดยมีแนวต้านสำคัญ 1,833 ดอลลาร์ ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,850 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,810 ดอลลาร์และ 1,800 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

Closechg.SupportResistance
1,826.10+17.691,810/1,8001,833/1,850

ราคาทองแท่ง 96.5%

Closechg.SupportResistance
28,050+10027,800/27,65028,150/28,350

โกลด์ฟิวเจอร์ส

ClosechgSupportResistance
28,240+13027,940/27,80028,300/28,510

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคาทองคำ Spot1,810ดอลลาร์ (GF27,940 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,800ดอลลาร์(GF27,800 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

ClosechgSupportResistance
1,829.70+15.801,811/1,8011,834/1,851

การเข้าซื้อเก็งกำไรแนะนำที่ราคา GOU211,811ดอลลาร์โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,801ดอลลาร์

- Advertisement -

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าขึ้น ทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเนื่องจากการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งต่ำกว่าตลาดคาดสำหรับ USD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.35 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 32.60บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนค่าผิดหวังตัวเลขจ้างงานสหรัฐต่ำกว่าคาด

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอซึ่งทำให้บรรดานักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่มีแนวโน้มที่จะประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเดือนนี้ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.21% สู่ระดับ 92.0327

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดพุ่ง 22.2 ดอลล์รับแรงซื้อหลังสหรัฐเผยจ้างงานซบเซา

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนได้พากันเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 22.2 ดอลลาร์หรือ 1.23% ปิดที่ 1,833.7 ดอลลาร์/ออนซ์และปรับตัวขึ้นราว 0.8% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 88.4 เซนต์หรือ 3.7% ปิดที่ 24.802 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดลบ 70 เซนต์ตัวเลขจ้างงานต่ำกว่าคาดกดดันตลาด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอเกินคาดซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และความต้องการใช้น้ำมันจะยังคงถูกกดดันในระยะสั้นสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 70 เซนต์หรือ 1% ปิดที่ 69.29 ดอลลาร์/บาร์เรลแต่ปรับตัวขึ้น 0.8% ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 42 เซนต์หรือ 0.6% ปิดที่ 72.61 ดอลลาร์/บาร์เรลแต่ปรับตัวขึ้น 1.3% ในรอบสัปดาห์นี้

ตลาดหุ้นต่างประเทศ :ดาวโจนส์ปิดลบ 74.73 จุดผิดหวังตัวเลขจ้างงานต่ำกว่าคาด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาดซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่ใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสสายพันธุ์เดลตาดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,369.09 จุดลดลง 74.73 จุดหรือ -0.21% และดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,535.43 จุดลดลง 1.52 จุดหรือ -0.03% ส่วนดัชนีNasdaq ปิดที่ 15,363.52 จุดเพิ่มขึ้น 32.34 จุดหรือ +0.21%     ในรอบสัปดาห์นี้ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.2% ขณะที่ดัชนีS&P500 และNasdaq ปรับตัวขึ้น 0.6% และ 1.6% ตามลำดับ

เฟาชีชี้โควิดสายพันธุ์ “มิว” ยังไม่ใช่ภัยคุกคามของสหรัฐในขณะนี้

นายแอนโทนีเฟาชีผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID) และหัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์แห่งทำเนียบขาวระบุว่าโควิด-19สายพันธุ์ใหม่อย่าง “มิว” ยังไม่ใช่ภัยคุกคามของสหรัฐในขณะนี้   “เราให้ความสนใจกับเรื่องนี้อย่างจริงจังแต่เรายังไม่ถือว่าสายพันธุ์ดังกล่าวเป็นภัยคุกคามเร่งด่วน” นายเฟาชีกล่าวโควิด-19สายพันธุ์มิวหรือมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่าB.1.621ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในรายชื่อสายพันธุ์โควิด-19ที่ “น่าสนใจ” ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเฟาชีกล่าวว่า “เชื้อไวรัสโควิด-19สายพันธุ์ใหม่นี้มีกลุ่มของการกลายพันธุ์ที่แสดงให้เห็นว่ามันสามารถหลีกเลี่ยงแอนติบอดีบางชนิดได้ไม่เพียงแต่โมโนโคลนัลแอนติบอดี (Monoclonal Antibodies) เท่านั้นแต่ยังรวมถึงแอนติบอดีที่เกิดจากวัคซีนอย่างไรก็ตามเรายังมีข้อมูลทางคลินิกไม่มากนักโดยส่วนใหญ่เป็นข้อมูลจากหลอดทดลองในห้องปฏิบัติการ”    แม้ว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19จะถูกสร้างขึ้นโดยคำนึงถึงสายพันธุ์โควิดดั้งเดิมแต่วัคซีนก็ยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันสายพันธุ์เดลตาอย่างมาก  “แม้ว่าคุณจะเผชิญกับโควิด-19สายพันธุ์ใหม่ที่ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงบ้างแต่วัคซีนก็ยังคงถือว่าค่อนข้างมีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ที่พบในเวลานั้น” นายเฟาชีกล่าวทั้งนี้WHO เปิดเผยว่าไวรัสโควิด-19สายพันธุ์มิวถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในโคลัมเบียและได้รับการยืนยันในอย่างน้อย39ประเทศ

“เฟาชี” ออกโรงหนุนวัคซีนบูสเตอร์คาดฉีด3เข็มจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่

นายแพทย์แอนโทนีเฟาชีแพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19ของทำเนียบขาวออกมาให้ความเห็นสนับสนุนการที่รัฐบาลสหรัฐแนะนำให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19เข็มที่3หรือวัคซีนบูสเตอร์เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายนายแพทย์เฟาชีกล่าวว่าเขาจะไม่แปลกใจเลยหากมีการปรับเปลี่ยนคำแนะนำในการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์และของโมเดอร์นาให้การฉีดวัคซีน3โดสจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่แทนที่จะเป็น2โดสโดยเขาระบุว่าการฉีดวัคซีนเพิ่มเติมให้กับประชาชนหลังจากได้รับวัคซีน2โดสแรกมาแล้วเป็นเวลาหลายเดือนจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันพัฒนาขึ้นได้ทั้งนี้การตัดสินใจเรื่องมาตรฐานการฉีดวัคซีนนั้นเป็นอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) และหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลแต่นายแพทย์เฟาชีก็กล่าวเสริมว่าการอนุมานว่าการฉีดวัคซีน3โดสจะทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันมากขึ้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลนายแพทย์เฟาชีนำเสนอข้อมูลวิจัยจากอิสราเอลที่ระบุว่าภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อเชื้อไวรัสโควิด-19จะเริ่มอ่อนแอลงหลังผ่านไป8เดือนซึ่งเป็นเหตุผลสนับสนุนให้มีการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมินอกจากนี้นายแพทย์เฟาชียังกล่าวว่าภูมิคุ้มกันที่ได้จากการฉีดวัคซีนเข็มที่3นั้นอยู่ในระดับสูงและคงอยู่ได้นานโดยงานวิจัยจากอิสราเอลฉบับหนึ่งเผยว่าในเวลา3สัปดาห์หลังจากได้รับวัคซีนโดสที่3ความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19ลดลงมากถึง84%เมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีน2โดส

“ทาโรโคโนะ” ประกาศลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคLDP หลังซูงะถอนตัว

นายทาโรโคโนะรัฐมนตรีซึ่งกำกับดูแลด้านการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่าเขามีความประสงค์ที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ขณะที่นายโยชิฮิเดะซูงะนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นส่งสัญญาณว่าจะลาออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศนายโคโนะซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมถือเป็นนักการเมืองอีกรายหนึ่งที่มีแนวโน้มที่จะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นตามผลสำรวจความคิดเห็นของสื่อ

- Advertisement -

Comments
Loading...