บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 16 ก.ย.64 by HGF

- Advertisement -

โดย  : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)

ทองคำปรับลดลงต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์

คืนนี้สหรัฐจะประกาศยอดค้าปลีกเดือนส.ค.

ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,780-1,810 ดอลลาร์

• ราคาทองคำSpot เมื่อวานปรับลดลงและปิดตลาดต่ำกว่า 1,800ดอลลาร์ หลังจากเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2วัน เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับขึ้นและสหรัฐเปิดเผยดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนก.ย.แข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 34.3 สูงกว่าตลาดคาดจะลดลงเหลือ 18.1 จากที่เดือนส.ค.อยู่ที่ระดับ 18.3 ทางด้านกองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ1.75 ตันเมื่อวาน
• คืนนี้สหรัฐจะประกาศยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ตลาดคาดจะลดลง0.7% จากที่เดือนก.ค.ลดลง 1.1% ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนก.ย.ตลาดคาดจะลดลงเหลือ 18.9จากที่เดือนส.ค.อยู่ที่ระดับ 19.4จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 325,000 รายจากที่สัปดาห์ก่อนหน้านี้อยู่ที่ระดับ 310,000  ราย
• แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,780-1,810 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้าน 1,810-1,815 ดอลลาร์ ซึ่งคาดอาจจะยังไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้ ถ้าผ่านขึ้นไปได้จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,820ดอลลาร์และ 1,830 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,780 ดอลลาร์และ 1,770 ดอลลาร์

ราคาทองตลาดโลก

ราคาทองแท่ง 96.5%

โกลด์ฟิวเจอร์ส

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรที่ราคาทอง Spot1,810ดอลลาร์ (GF 28,240บาท) การเปิดสถานะซื้อรอบใหม่รอให้ราคาทอง Spot ปรับลงมาที่ 1,780 ดอลลาร์  (GF 27,880 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,770 ดอลลาร์(GF 27,750 บาท)

โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์

สำหรับนักลงทุนที่ซื้อไว้แนะนำขายทำกำไรที่ราคา GOU211,812ดอลลาร์ การเปิดสถานะซื้อรอบใหม่รอให้ราคา GOU21ปรับลงมาที่ 1,782 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,772 ดอลลาร์

- Advertisement -

ค่าเงิน

ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ ซึ่งจะลดแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)ซึ่งUSD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 32.80 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน33บาท/ดอลลาร์

News

ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์อ่อนค่าคาดเฟดชะลอหั่นQE หลังเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (15 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังสหรัฐเปิดเผยเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.09% แตะที่ 92.5425 เมื่อคืนนี้

ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดลบ $12.3 นลท.ขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังหุ้นพุ่ง

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 1,800 ดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมานอกจากนี้ความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 12.3 ดอลลาร์หรือ 0.68% ปิดที่ระดับ 1,794.8 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.4 เซนต์หรือ 0.35% ปิดที่ 23.801 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดพุ่ง $2.15 ขานรับสต็อกน้ำมันดิบลดลงต่อเนื่อง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 72 ดอลลาร์เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 ก.ย.) ขานรับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐยังคงแข็งแกร่งสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2.15 ดอลลาร์หรือ 3.1% ปิดที่ 72.61 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.86 ดอลลาร์หรือ 2.5% ปิดที่ 75.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นต่างประเทศ : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 236.82 จุดรับแรงซื้อหุ้นพลังงาน-ข้อมูลศก.สดใส

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (15 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันWTI ทะยานขึ้นกว่า 3% นอกจากนี้ตลาดยังขานรับดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,814.39 จุดเพิ่มขึ้น 236.82 จุดหรือ +0.68% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,480.70 จุดเพิ่มขึ้น 37.65 จุดหรือ +0.85% ดัชนีNasdaqปิดที่ 15,161.53 จุดเพิ่มขึ้น 123.77 จุดหรือ +0.82%

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธลงสู่ทะเลคาดตกนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษญี่ปุ่น

กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นเปิดเผยว่าเกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธลงสู่ทะเลในเมื่อวานนี้โดยขีปนาวุธไม่ได้ตกลงสู่เขตแดนของญี่ปุ่นแต่เชื่อว่าตกลงในพื้นที่ด้านนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่นการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในวันนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (13ก.ย.) เกาหลีเหนือได้อ้างความสำเร็จในการทดสอบยิงขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล (long-range cruise missile) รุ่นใหม่ในช่วงสุดสัปดาห์โดยขีปนาวุธรุ่นใหม่ซึ่งพัฒนาโดยสถาบันวิทยาศาสตร์ด้านกลาโหมของเกาหลีเหนือนั้นสามารถทำลายเป้าหมายที่อยู่ไกลประมาณ1,500กิโลเมตร (930ไมล์)    สำนักข่าวกลางของเกาหลี (KCNA) ระบุว่าเกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบยิงขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลรุ่นใหม่เมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดยขีปนาวุธดังกล่าวได้รับการยืนยันในด้านประสิทธิภาพและความแม่นยำพร้อมระบุว่าเกาหลีเหนือมีความคืบหน้าอย่างมากในการพัฒนาขีปนาวุธในช่วง2ปีที่ผ่านมาการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เกาหลีเหนือได้แสดงท่าทีไม่พอใจสหรัฐที่เดินหน้าซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้โดยเมื่อไม่นานมานี้นายคิมยงชอลเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือได้ออกมาเตือนว่าเกาหลีใต้และสหรัฐตอบแทนความหวังดีของเกาหลีเหนือด้วย “การกระทำอันเป็นปรปักษ์” และยังกล่าวด้วยว่าเกาหลีใต้เลือกที่จะละทิ้งโอกาสในการยกระดับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น

สื่อสหรัฐชี้จีนอาจเป็นฝ่ายส่งมอบวัคซีนโควิดให้แก่ประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก

เว็บไซต์อาซิออสนิวส์ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวของสหรัฐรายงานว่า “สหรัฐไม่ใช่ประเทศที่ส่งมอบวัคซีนให้แก่ประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลกแต่จีนอาจทำได้”  อาซิออสนิวส์รายงานโดยอ้างข้อมูลจากAirfinityบริษัทด้านการวิเคราะห์ว่า “สหรัฐและกลุ่มประเทศตะวันตกสามารถฉีดวัคซีนให้แก่วัยรุ่นและฉีดวัคซีนกระตุ้นให้แก่ทุกคนและยังมีวัคซีนเกิน1.2พันล้านโดสที่สามารถส่งไปยังประเทศอื่นได้ในปีนี้”  อย่างไรก็ตามรายงานระบุว่า “มีแนวโน้มว่าสหรัฐและบรรดาบริษัทเวชภัณฑ์จะยังไม่สามารถทำให้ประเทศยากจนและยังไม่ได้รับวัคซีนหลุดพ้นจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19แต่จีนอาจทำได้”    โครงการCOVAX ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่าจากการประมาณการโครงการได้รับวัคซีนน้อยกว่าที่คาดไว้25%ทั้งนี้วัคซีนที่ผลิตจากจีนยังสามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิตู้เย็นปกติและหลายฝ่ายเชื่อว่าจีนจะสามารถจัดหาวัคซีนได้มากกว่า

“ไบเดน” โต้ข่าวหลังสื่อรายงาน “สีจิ้นผิง” ไม่รับข้อเสนอร่วมหารือแบบพบหน้า

ประธานาธิบดีโจไบเดนแห่งสหรัฐได้ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่าประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนได้ปฏิเสธข้อเสนอของปธน.ไบเดนที่ต้องการจัดการประชุมหารือแบบพบหน้ากัน   “เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง” ปธน.ไบเดนตอบคำถามหลังผู้สื่อข่าวถามว่าเขาผิดหวังหรือไม่ที่ปธน.สีไม่ต้องการหารือร่วมกับเขาก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานโดยอ้างกลุ่มบุคคลที่รับทราบเกี่ยวกับการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างปธน.ไบเดนและปธน.สีจิ้นผิงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งระบุว่าปธน.สีไม่ได้ตอบรับข้อเสนอของผู้นำสหรัฐแต่ระบุว่าฝั่งสหรัฐมีท่าทีที่แข็งกร้าวต่อจีนน้อยลงนอกจากนี้ไฟแนนเชียลไทมส์ยังอ้างถึงหนึ่งในแหล่งข่าวซึ่งระบุว่าปธน.ไบเดนยังเสนอให้จัดประชุมสุดยอดเพื่อสานสัมพันธ์กับปธน.สีแต่ปธน.สียังไม่ได้ตอบรับโดยทันทีโดยสาเหตุส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ด้านนายเจคซัลลิแวนที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐว่า “รายงานข่าวนี้ไม่เป็นความจริงและไม่สอดคล้องกับผลการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ”

- Advertisement -