ราคาทอง 18/10/67
โดย : บริษัท ออสสิริส จำกัด
ข่าวสารทองคำประจำวัน
ราคาทองคำโลกพุ่งทำจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ใหม่ที่ระดับ 2,696 ดอลลาร์/ออนซ์ ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาโดยตลาดได้ปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง
โดยล่าสุดนายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวยืนยันว่า นายยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำของกลุ่มฮามาส ได้เสียชีวิตแล้วจากปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นการสร้างความตึงเครียดในภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งยังหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยต่อเนื่อง นอกจากนี้ทองยังได้แรงหนุนจากตลาดที่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินทั้งในเดือน พ.ย.และธ.ค. ซึ่งยังจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในภาพรวมระยะยาว
สำหรับทิศทางทางดอกเบี้ยสหรัฐในมุมของนักลงทุนปัจจุบัน นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ในเดือนหน้า อ้างอิง CME’s FedWatch นักลงทุนให้น้ำหนัก 87.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมเดือน พ.ย. รวมทั้งให้น้ำหนัก 71.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.
Ausiris คาดการณ์ว่าระยะยาวราคาทองคำจะยังคงทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 จากการที่กระแสเงินทุนจำนวนมากที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำ รวมทั้งแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก ทำให้ราคาทองโลกมีโอกาสแตะ 2,700 เป็นอย่างน้อยในปีนี้
การลดดอกเบี้ยโดยเฟดมักส่งผลบวกต่อราคาทองคำ โดยมีเหตุผลหลักๆ ดังนี้:
ต้นทุนค่าเสียโอกาสที่ลดลง: เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ผลตอบแทนจากการถือครองสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดดอกเบี้ย เช่น เงินฝากหรือพันธบัตร จะลดลง ทำให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง: การลดดอกเบี้ยโดยเฟดมักทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เนื่องจากนักลงทุนจะแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่าในสกุลเงินอื่น ทองคำซึ่งซื้อขายเป็นดอลลาร์สหรัฐ จะมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ส่งผลให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นและราคาทองคำสูงขึ้น
ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ: การลดดอกเบี้ยโดยเฟดมักเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอย ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรักษามูลค่าของเงินลงทุน ตัวอย่างจากอดีต: ช่วงปี 1995 – 1999, 2001 – 2004, และ 2007 – 2015: ในช่วงเวลาเหล่านี้ เฟดได้ลดอัตราดอกเบี้ย และราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะในระยะกลางถึงระยะยาวหลังจากการลดดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างการลดดอกเบี้ยของเฟดและราคาทองคำ ไม่ใช่กฎตายตัว และอาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีอิทธิพลต่อราคาทองคำด้วย เช่น อัตราเงินเฟ้อ สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน ดังนั้น การตัดสินใจลงทุนในทองคำควรพิจารณาจากปัจจัยหลายๆ ด้าน ไม่ใช่เพียงแค่การคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพียงอย่างเดียว
ข้อมูลทางเทคนิคแนวโน้มราคาทองคำ
สำหรับวันนี้ราคาทองโลกเปิดตลาดที่ระดับ 2,676 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และยังมีแรงหนุนฝั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่องในช่วงเช้า สำหรับราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศคาดการณ์ตอนเปิดตลาดขายออกบาทละ 42,200-42,250 บาท สำหรับมุมมองทางเทคนิคราคาทองคำโลกภาพรวมใหญ่ยังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น สำหรับระยะกลางกราฟราย 4 ชั่วโมง ยังแกว่งตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50,100 ยังสามารถยืนต่อได้และสามารถรันเทรนขาขึ้นรอบใหม่ สะท้อนฝั่งซื้อยังได้เปรียบตลาด แต่อาจเพิ่มความระมัดระวังการเทขายทำกำไรหลังราคาทองเริ่มเข้าใกล้เขตซื้อสูงหรือ Overbought ใน RSI อินดิเคเตอร์ หากราคาทองเบรกเหนือ 2,700ขึ้นไป
ราคาสูงสุดต่ำสุดของราคาทองโลกเมื่อวานนี้
สูงสุด 2,696 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่ำสุด 2,673 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธการลงทุนทองคำ (Buy)
ราคาทองโลก (Gold Spot):
แนวรับ 2,686/2,663 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวต้าน 2,700/2,725 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำทองคำแท่งน้ำหนัก 1 บาท 96.5%:
แนวรับ 41,050/41,850บาท
แนวต้าน 42,200/42,400บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้
รายงานใบอนุญาตก่อสร้างบ้าน (Building Permits) คาดการณ์เป็นบวกต่อราคาทอง
กองทุน SPDR (กองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก)
ถือครอง 884.59 ตัน (คงที่)
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดอยู่ที่ระดับ 4.75-5.00%