ราคาทอง 06/06/67
โดย : บริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด
ราคาทองวันนี้ปรับตัวขึ้นมาที่ 40,800+
ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอ
แนวรับ : 2,335 / 40,550 บาท
แนวต้าน : 2,370 / 40,800 บาท
สหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเฟดจะเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย
โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 69% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 50% ในการสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ว่าการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 152,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 188,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.
ทางด้านสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผย
ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลงสู่ระดับ 8.06 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2564
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐฯ
ในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9% ในเดือนพ.ค.
ไทยประกาศข่าวดี ท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัดได้ลดหย่อนภาษีรวม 15,000 บาท โดยค่าใช้จ่ายที่เข้าร่วมรายการคือค่าที่พักและนำเที่ยว
สงครามการค้ายังทวีความรุนแรง และไม่ได้กระทบแค่ 2 ชาติอย่างจีนและสหรัฐฯ โดยล่าสดผู้บริหารของบริษัทในญี่ปุ่นเริ่มกังวลเกี่ยวกับผลกระทบครั้งใหญ่จากสงครามการค้าครั้งนี้ โดยกลัวว่าตนจะต้องเลือกข้าง หรือต่อให้ไม่เลือก ก็ได้รับต้นทุนสินค้าที่แพงขึ้นมหาศาลเช่นกัน โดยอนาคตอันใกล้นี้เราอาจกำลังพบเจอภาวะการหดตัวของเศรษฐกิจโลกได้ จากสงครามการค้าที่จะยืดเยื้อในอนาคต
ถึงแม้แบงค์ใหญ่ที่สุดของเวียดนามจะเสี่ยงภาวะล้มละลายแต่ หุ้นเวียดนามยังคงพุ่งต่อเนื่อง โดยล่าสุด แบงค์ชาติเวียดนามอัดฉีดเงินสำรองกว่า 1ใน4 ของเงินสำรองในประเทศ สู่แบงค์ SCB (Saigon Commercial Bank) เพื่อคงสภาพคล่องและลดผลกระทบ