ราคาทอง 12 มี.ค.68
โดย : บริษัท ออสสิริส จำกัด
ราคาทองโลกปิดบวก 26 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,915 ดอลลาร์ หนุนราคาทองแท่งน้ำหนัก 1 บาท
ขายออกมากกว่าบาทละ 46,500 บาท ในวันอังคาร (12 มี.ค.) จากการที่ค่าเงินสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่า เป็นปัจจัยหนุนตลาดจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าที่มีต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
โดยล่าสุด ทรัมป์ประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากแคนาดาเป็น 50% จากเดิม 25% โดยจะมีผลบังคับใช้ในช่วงเช้าของวันพุธที่ 12 มี.ค. เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัฐออนแทริโอของแคนาดาประกาศเรียกเก็บภาษีกระแสไฟฟ้าที่ส่งให้แก่สหรัฐฯ ในอัตรา 25%
ขณะที่ปัจจัยเชิงลบจะเป็นในเรื่องดีลเจรจารสันติภาพรัสเซียยูเครน โดยล่าสุดสหรัฐยกเลิกการระงับความช่วยเหลือทางทหารและการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับยูเครน ขณะที่ ยูเครนส่งสัญญาณพร้อมรับข้อตกลงหยุดยิง 30 วันหากรัสเซียยอมรับข้อเสนอ
นักลงทุนยังกังวลต่อการทำสงครามการค้าของสหรัฐ และจับตาสหรัฐที่จะเริ่มใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับทุกประเทศที่เก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.
นอกจากนี้ตลาดจะจับตาเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนก.พ. ในวันนี้ เวลาประมาณ 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนี CPI จะปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนม.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนม.ค.
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้น (Bullish Trend) ในภาพรวมใหญ่
แม้ว่าล่าสุดราคาจะกลับมายืนเหนือ 2,900ดอลลาร์ แต่หากยังไม่สามารถเบรกแนวต้าน 2,930ดอลลาร์ เพื่อทำ Higher High เพื่อรักษาโมเมนตัมขาขึ้นต่อ ทองยังมีความเสี่ยงที่จะพักตัวต่อ ทำให้มุมมองฝั่งขายยังได้เปรียบตลาด มากกว่าฝั่งซื้อ
โดยมีเป้าหมายถัดไปที่เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ที่ทำหน้าที่เป็นแนวรับ ในเบื้องต้นบริเวณ 2,880 ดอลลาร์ โดยอาจจำเป็นต้องเห็นการหลุดแนวรับ 2,900 ดอลลาร์ ลงมาก่อน ขณะที่สัญญาณขาลงยังไม่ปรากฏตราบยังไม่หลุดโซน 2,830 ดอลลาร์
กลยุทธการลงทุนทองคำ
ราคาทองโลก (Gold Spot):
แนวรับ 2,895/2,880/2,860 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวต้าน 2,920/2,930/2,955 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำทองคำแท่งน้ำหนัก 1 บาท 96.5%:
แนวรับ 46,350/46,200/46,000บาท
แนวต้าน 46,550/46,650/46,800บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดอยู่ที่ระดับ 4.25-4.50%
สรุปแนวโน้มทางเทคนิค
ทองโลกดิ่งร่วงเกือบ 40 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,877 ดอลลาร์ หลังสกุลลาร์แข็งค่าทุบตลาดจากการที่โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยืนยันที่จะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% ตามกำหนดเดิมในวันที่ 4 มี.ค. และจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ซึ่งกดดันสกุลเงินที่เสี่ยงเผชิญการขึ้นภาษีนำเข้า อย่าง เงินยูโร (EUR) และเงินหยวนจีน
ในทาง Fund หากเราติดตามมาตลอด ความกังวลมันไม่สามารถวิ่งไปได้เรื่อยๆ อย่างที่บอกเรื่องภาษี แมกซิโก และ แคนนาดา แน่นอนน่าจะส่งผลเรื่องความกังวลของ นลท แต่การขู่ขึ้นภาษีต่อนั้นเริ่มไม่ได้มีผล แต่การขู่ขึ้นภาษีประเทศที่เหลืออันใหม่อันนั้นน่าจะมีผลของความกังวลบ้างที่พอยังเหลืออยู่ในตอนนี้ แต่ Fund หลักคือ FED ไม่ลดดอกเบี้ยนั่นคือเรื่องจริงที่ทองนั้นน่าจะลงมากกว่าขึ้น แต่ก็ต้องรอความกังวลในความไม่แน่นอนของนโยบายของคุณทรัมป์หมดไป
บรรยากาศในตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยงชัดเจน ท่ามกลางแรงขายหุ้นธีม AI/Semiconductor อาทิ Nvidia -8.5% หลังผู้เล่นในตลาดต่างผิดหวังกับรายงานผลประกอบการของ Nvidia นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็เผชิญแรงกดดันจากความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ทำให้โดยรวมดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ดิ่งลง -2.78% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด -1.59%
ขณะที่เงินบาท (USDTHB) ทยอยอ่อนค่าลงทะลุ3 บาทต่อดอลลาร์) หลังเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ
นอกจากนี้ นักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังราคาทองพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รวม 11 ครั้งนับตั้งแต่ต้นปี 2568 รวมถึงนักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยเลยปีนี้ขณะที่ราคาทองในประเทศปรับตัวลดลงตามราคาทองโลกหลุด 46,500 บาท
สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ ในเดือนมกราคม นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด ว่าจะมีการประกาศเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจากยุโรป เม็กซิโก แคนาดา และจีน อย่างไรบ้าง
ทองโลกโดนทุบหลุด 2900 ทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์
จากภาพนั้นได้เริ่ม Confirm เป็นกราฟพักตัวของ TF4H หมายความว่าจากนี้ทองจะเริ่มพักตัวมาที่ 2855-2815ใน TF4H แล้วค่อยมาวัดกันว่ารับอยู่ไหม ถ้ารับไม่อยู่ กราฟนี้ก็จะเป็นการพักตัวของ TF Day ซึ่งก็จะไปถึง 2770-2700 กันเลยทีเดียว
กรณีขาลง (Bearish Scenario): หากราคาทองปิดตลาดต่ำกว่า 2,870 ดอลลาร์ และไม่สามารถกลับไปยืนเหนือ 2,890 ดอลลาร์ได้ แรงขายอาจผลักราคาลงไปทดสอบ 2,855 ดอลลาร์ 46250 หากหลุดแนวรับนี้ จะเห็นการร่วงต่อไปที่ 2,830-2,800ดอลลาร์ 46000-45700
กรณีทรงตัว (Sideways Scenario): หากราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 2,855-2,890 ดอลลาร์ 46100-46500 โดยไม่มีแรงซื้อหรือขายที่ชัดเจน อาจเป็นการสะสมพลัง (consolidation) ก่อนเลือกทิศทาง
กรณีขาขึ้น (Bullish Scenario): หากราคาทะลุ 2,890 ดอลลาร์ (46,500บาท)ด้วยปริมาณการซื้อที่สูง (volume spike) อาจดีดตัวไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2,920-2,930 ดอลลาร์ (46,700-46,800บาท)