ราคาทอง 15/11/66
โดย : บริษัท ออสสิริส จำกัด
ราคาทองคำในตลาดโลกปิดบวก 17 usd/oz ปิดที่ระดับ 1962
หลังเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าและบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัว รวมทั้งตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์
ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเฟดอาจลดดอกเบี้ยลงราว -1% ในปีหน้าหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงใกล้โซนแนวต้านสำคัญ
สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามในช่วงนี้ แนะติดตามประเด็นการเมืองสหรัฐฯ ว่าสภาคองเกรสจะสามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดภาวะ Government Shutdown ได้หรือไม่ พร้อมกับรายงานผลประกอบการของบริษัทค้าปลีก
แนวโน้มราคาทองคำ
ราคาทองคำเช้านี้เปิดตลาดที่ 1,962 ประมาณ 33,100กว่าบาท สำหรับราคาทองคำแท่ง 96.5% น้ำหนัก 1บาท
ภาพรวมใหญ่ของตลาดทองคำพยายามกลับขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันได้สำเร็จที่ระดับ 1,962 ทำให้ขาลงชะลอตัว และกำลังพยายามกลับไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน ในTF4H ที่ระดับ 1,973
หากสามารถกลับยืนเหนือโซนดังกล่าวขาขึ้นจะกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง แต่หากราคายังไม่สามารถฟื้นตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยดัง และหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันลงมา ราคาทองมีโอกาสร่วงทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน บริเวณแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,928
กลยุทธการลงทุนย่อซื้อ อย่างไรก็ตามเราอาจเห็นราคาทองในประเทศปรับตัวขึ้นไม่มากเนื่องจากยังได้รับอิทธิจากค่าเงินบาทที่พลิกกลับมาแข็งค่าแรง
สถิติที่น่าสนใจ
1.ราคาทองคำมีส่วนต่างระหว่างราคาสูงสุดกับราคาต่ำสุดของเดือนมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ $106.8 2.ราคาทองคำส่วนใหญ่ปิดลบในเดือนพฤศจิกายนเมื่อเทียบกับราคาปิดในเดือนตุลาคมในแต่ละปีเกือบ 70% ในTF1M ก่อนที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในต้นเดือนธันวาคมถือว่าเป็นจังหวะดีก่อนสิ้นสุดปี 2566
ราคาทองคำเมื่อวาน High 1,970 Low 1,943
กลยุทธการลงทุนทองคำ
Gold Spot:
แนวรับ :1953/1943 usd/oz
แนวต้าน:1970/1983 usd/oz
ทองคำ96.5%:
แนวรับ :32,950/32,850บาท
แนวต้าน:33,100/33,200บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
ค่าเงินบาท
เงินบาทเปิดตลาดแข็งค่าที่ระดับ 35.53 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ 35.40-35.65 บาทต่อดอลลาร์
กองทุน SPDR ถือครอง 870.45ตัน (คงที่)
ดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ
ดอกเบี้ยสหรัฐฯ ล่าสุดยังอยู่ที่ระดับ 5.25-5.50% โดยล่าสุดตลาดยังคงคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมในวันที่ 13 โดยคาดการณ์อยู่ที่ 99%
ขณะที่อีก 1% คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าวอีก 0.25% อ้างอิงจาก CME GROUP