ประเด็นสำคัญวันนี้
- ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 125%
- นักวิเคราะห์เผยราคาทองคำน่าจะอยู่ที่ 3,600 ดอลลาร์ในอีกประมาณ 1 ปี
- ข้อมูล CPI ของสหรัฐฯ จะออกคืนนี้
ราคาทองคำ ขยับขึ้นต่อเนื่องในวันพฤหัสบดี เนื่องด้วยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะประกาศหยุดเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศอื่นเป็นเวลา 90 วันก็ตาม
ราคาทองคำ gold spot เพิ่มขึ้น 1.3% อยู่ที่ 3,122.02 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเพิ่มขึ้นรายวันสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 เมื่อวันพุธ สัญญาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.9% อยู่ที่ 3,137.80 ดอลลาร์
Nitesh Shah นักยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จาก WisdomTree กล่าวว่า “เราใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่มีความไม่แน่นอนอย่างมาก เราไม่รู้จริงๆ ว่าสงครามการค้าจะดำเนินไปในทิศทางใด ฉันคิดว่าตลอดปีนี้ ราคาทองคำจะพุ่งสูงขึ้น”
ทรัมป์กล่าวเมื่อวันพุธว่าเขาจะลดอัตราภาษีศุลกากรอันหนักหน่วงที่เพิ่งเรียกเก็บจากหลายสิบประเทศเป็นการชั่วคราว แต่จะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าจากจีนเป็น 125% จาก 104% หลังจากที่จีนตัดสินใจจัดเก็บภาษี 84% จากสินค้าของสหรัฐ
รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด เมื่อเดือนที่แล้วแสดงให้เห็นว่า ผู้กำหนดนโยบายมีความเห็นเกือบเป็นเอกฉันท์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับความเสี่ยงพร้อมกันของ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และการเติบโตที่ช้าลง โดยบางคนตั้งข้อสังเกตว่า “ธนาคารกลางอาจต้องเผชิญกับ “การแลกเปลี่ยนที่ยากลำบาก” ในอนาคต
นักลงทุนให้ความสนใจข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐ ในคืนนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด ปัจจุบันตลาดกำลังพิจารณาการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 84 จุดพื้นฐาน ภายในสิ้นปีนี้
ทองคำแท่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ราคาทองคำแท่งยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้นมากกว่า 18% ในปีนี้
Nitesh Shah กล่าวเพิ่มเติมว่า “การคาดการณ์ของผม สำหรับทองคำ คือ จะอยู่ที่ 3,600 ดอลลาร์ในอีกประมาณหนึ่งปีด้วยความเสี่ยงขาขึ้นจำนวนมาก และผมจะไม่แปลกใจเลยหากราคาทองคำจะไปได้ถึง 4,000 ดอลลาร์”
ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์ส (reuters.com)