ราคาทองคำ เพิ่มขึ้นในวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ในขณะที่ความล่าช้าในการสร้างสันติภาพในยูเครน และความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ส่งผลให้มีความต้องการทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
- ดัชนีดอลลาร์ร่วงจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์
- การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนมกราคม
- ภาษีรถยนต์ของทรัมป์อาจกระทบต่อความต้องการแพลตตินัมและแพลเลเดียม
ข้อมูลพื้นฐานราคาทองคำ :
- ราคาทองคำ gold spot เพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 2,866.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์
- สัญญาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1% อยู่ที่ 2,875.80
- ดัชนีดอลลาร์ (DXY) ลดลง 0.4% จากระดับสูงสุดในรอบกว่าสองสัปดาห์ก่อนหน้า ส่งผลให้ผู้ถือสกุลเงินอื่นมีราคาถูกลง
- Kelvin Wong นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ OANDA กล่าวว่า “ทิศทางขาขึ้นของราคาทองคำในเอเชียช่วงเช้าวันนี้มีแนวโน้มว่าจะได้รับแรงหนุนจากปัจจัยเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์อันเนื่องมาจากการผลักดันข้อตกลงสันติภาพที่คาดว่าจะเกิดขึ้นระหว่างยูเครนและรัสเซีย”
- การประชุมระหว่างประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ สิ้นสุดลงด้วยความหายนะเมื่อวันศุกร์ โดยเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาดการเงินซึ่งมีความปั่นป่วนอยู่แล้วจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงและความผันผวนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ
- นายโฮเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกจะมีผลบังคับใช้ในวันอังคาร แต่ทรัมป์จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะคงภาษีที่ระดับ 25% ตามแผนไว้หรือไม่
- ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มอีก 10 เปอร์เซ็นต์ในวันอังคาร ซึ่งจะทำให้อัตราภาษี 10 เปอร์เซ็นต์ที่เรียกเก็บเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
- ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐฯ ลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนมกราคม แต่อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอาจเป็นเหตุให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ เลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปสักระยะหนึ่ง
- แม้ว่าทองคำแท่งจะถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ก็สูญเสียเสน่ห์ไปในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง
ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์ส (reuters.com)