วิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 08-11-24 By MTS Gold
ราคาทอง 08/11/67
โดย : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS GOLD)
ราคาทองคำค่อนข้างผันผวน
โดยเมื่อวานนี้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นหลังจากที่ลงไปทำจุดต่ำสุดแถวบริเวณ 2,643 เหรียญ และเช้านี้ดีดกลับขึ้นมาเหนือระดับ 2,700 เหรียญได้อีกครั้ง เรียกได้ว่าขึ้นมาประมาณ 60 เหรียญจากเมื่อวานนี้ จากการรับข่าวการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด โดยเฟดมีมติเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% นำอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตรา 4.75% ถึง 5.00% ลงสู่อัตรา 4.50% ถึง 4.75%
อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงให้ความสำคัญไปที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นหลัก โดยล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน คว้าคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral vote) ไปแล้ว 295 คะแนน มากกว่าเกณฑ์ซึ่งต้องได้เกินกึ่งหนึ่งที่ 270 คะแนน (จากทั้งหมด 538 คะแนน) ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคเดโมแครต อย่าง “คามาลา แฮร์ริส” รองประธานาธิบดีและตัวแทนจากฝั่งเดโมแครต ซึ่งอยู่ที่ 226 คะแนน ท่ามกลางตลาดยังอยู่ในช่วงรับรู้ข่าวใหม่และข่าวเดิม
ทางด้านสงครามทำเนียบขาววางแผนส่งเงินช่วยเหลือด้านความมั่นคงมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ให้แก่ยูเครนก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ จะหมดวาระในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นความพยายามที่จะให้การสนับสนุนรัฐบาลยูเครนก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค. รวมถึงส่งฝูงบินขับไล่ F-15 ไปที่ตะวันออกกลาง เพื่อส่งสัญญาณเตือนถึงอิหร่าน
ขณะที่ทางด้านจีนออกมาแถลงการณ์ว่าจีนยินดีที่จะยกระดับการติดต่อสื่อสารกับสหรัฐฯ ขยายความร่วมมือ และอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ท่ามกลางตลาดการเงินยังคงกังวลนโยบายหลักของทรัมป์อย่างมาก ซึ่งเห็นได้จากผลกระทบเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าภาพรวมของราคาทองคำน่าจะอยู่ในช่วงของการปรับฐานทำกำไรจนถึงสิ้นปี
โดยราคาทองคำน่าจะอยู่ในช่วงของการปรับฐานระหว่าง 2,600-2,800 เหรียญ ซึ่งไม่คาดว่าจะทำจุดสูงสุดใหม่ได้ ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์คาดว่าน่าจะทำกำไรตามกรอบแบบ Sideways แนวกว้าง ประมาณ 200 เหรียญ และราคาทองไทยน่าจะแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 42,500-44,500 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งน่าจะเป็นแนวต้านที่ได้ยาก ด้านค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นหลังจากที่เมื่อวานนี้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 34.46 บาทต่อดอลลาร์
ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ด้านดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมาเล็กน้อยจากเมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 105.15 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 104.49 จุด ถือได้ว่าภาพรวมดัชนีดอลลาร์ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ขายออก 2.88 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 880.58 ตัน
สำหรับวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Prelim UoM Consumer Sentiment คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นจากเดิม ในส่วนของสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 0.93% ปิดที่ 72.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำในเชิงเทคนิคปรับตัวลดลงมา โดย Fibonacci retracement 70% อยู่ที่ระดับ 2,650 เหรียญ และ Fibonacci retracement 61.8% อยู่ที่ระดับ 2,676 เหรียญ และ Fibonacci retracement 50% อยู่ที่ระดับ 2,700 เหรียญ
จะเห็นได้ว่าราคาทองคำในทางเทคนิคถือว่าใกล้เคียงกับ Fibonacci retracement ดังนั้นจึงคาดว่าวันนี้ราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,660 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 2,715 เหรียญ กลยุทธ์การลงทุนแนะนำเทขายทำกำไรเป็นช่วงๆ และเข้าซื้อบริเวณฐานล่างของ Bollinger Bands
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,680 เหรียญ และแนวต้าน 2,735 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 2,670 เหรียญ และแนวต้าน 2,725 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 43,100 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 43,500 บาท/บาททองคำ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ระมัดระวังการรีบาวด์ขึ้นครั้งนี้ ภาพใหญ่ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงปรับฐาน แนะนำแบ่งปิดทำกำไร หากราคาไม่สามารถยืนเหนือ $2,700 มีโอกาสปรับตัวย่อลงได้ต่อ
– นักลงทุนที่ถือ Long Position
แบ่งปิดทำกำไีร ตามกรอบแนวต้าน แนะนำหากราคาไม่ผ่านแนวต้าน มีโอกาสเกิดแรงขายทำกำไร แนะหากราคาหลุด Low ควรมี Stop Loss
– นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้าน ระยะสั้นยังคงอยู่ในช่วงฟื้นตัวรีบาวด์ หากเกิดสัญญาณกลับตัวขึ้นต่อ ควรมีจุด Stop Loss