หน้าแรกข่าวทองคำทองคำร่วงหลังดอลลาร์แข็งค่าจากภาษีของทรัมป์

ทองคำร่วงหลังดอลลาร์แข็งค่าจากภาษีของทรัมป์

- Advertisement -

ราคาทองคำร่วงลงเกือบ 1% ในวันจันทร์ หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงก่อนหน้า

โดยเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจากความหวาดกลัวต่อสงครามการค้าโลกที่เพิ่มมากขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ออกมาตรการภาษีศุลกากรที่เข้มงวดยิ่งขึ้น

ราคาทองคำในตลาดโลกร่วงลง 0.9% เหลือ 2,776.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,817.23 ดอลลาร์ในวันศุกร์ สัญญาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐร่วงลง 0.9% เหลือ 2,810.80 ดอลลาร์

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ส่งผลให้ราคาทองคำที่เป็นดอลลาร์สหรัฐมีราคาแพงขึ้น

ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% และเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10% เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่าจะไม่มีการยกเว้นภาษีนำเข้า

แคนาดาและเม็กซิโกสั่งการตอบโต้ ในขณะที่จีนกล่าวว่าจะท้าทายภาษีศุลกากรต่อองค์การการค้าโลกและจะใช้มาตรการตอบโต้ที่ไม่ได้ระบุ

“ตลาดดูจะสับสนกับดราม่าเรื่องภาษีศุลกากร และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำ อาจดูเหมือนช่วยจำกัดแนวโน้มขาลงระยะสั้นได้… แม้ว่าดอลลาร์สหรัฐที่พุ่งสูงขึ้นอาจเป็นปัจจัยยับยั้ง” ทิม วอเทอร์เรอร์ หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดที่ KCM Trade กล่าว

“ทองคำจะต้องรักษาระดับราคา 2,750 ดอลลาร์ ไว้ได้เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาลดลงอีก”

“ทองคำแท่งถือเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยในช่วงที่มีความวุ่นวายทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์”

ซิตี้กล่าวในบันทึกว่า การปรับขึ้นภาษีเพิ่มเติมน่าจะส่งผลดีต่อทองคำและมีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาให้พุ่งขึ้นไปที่ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ในขณะเดียวกัน JP Morgan ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ราคาหุ้นมีแนวโน้มลดลงอาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในระยะใกล้ แต่ภาษีศุลกากรที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายยังคงเป็นแรงผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นในระยะกลาง

ที่มา: Money Control

- Advertisement -
Mr.Gold
Mr.Gold
หวังว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มข้อมูลข่าวสารให้ผู้ที่สนใจลงทุนในทองคำ
- Advertisement -
RELATED ARTICLES
- Advertisment -
- Advertisement -

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ

- Advertisement -