ราคาทองคำ ร่วงลงในช่วงเช้าของวันจันทร์ในเอเชีย โดยได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากความกลัวต่อสงครามการค้าโลกที่เพิ่มมากขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กำหนดมาตรการภาษีศุลกากรครั้งใหญ่ต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข้อมูลพื้นฐาน
- ราคาทองคำ gold spot ลดลง 0.6% เหลือ 2,784.84 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สัญญาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ ลดลง 0.3% เหลือ 2,825.80 ดอลลาร์
- ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ DXY ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบสามสัปดาห์ ส่งผลให้ราคาทองคำที่เป็นดอลลาร์สหรัฐฯ มีราคาแพงขึ้น
- ทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25 เปอร์เซ็นต์ และภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10 เปอร์เซ็นต์ เริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา
- แคนาดาและเม็กซิโกสั่งตอบโต้การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า 25% ของทรัมป์ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทั้งสามประเทศ ขณะเดียวกันจีนกล่าวว่าจะโต้แย้งภาษีนำเข้ากับองค์การการค้าโลกและจะใช้มาตรการตอบโต้ที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด
- แผนภาษีของทรัมป์ ถูกมองกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งอาจผลักดันให้ความต้องการทองคำแท่งในสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากโดยทั่วไปแล้ว ถือกันว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากแรงกดดันด้านราคาและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
- ทองคำราว 12.9 ล้านออนซ์ ได้ถูกส่งมอบไปยังคลังสินค้าที่ได้รับการอนุมัติจาก COMEX ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2565 เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยดังกล่าว
- ในขณะเดียวกัน นักเก็งกำไรทองคำในตลาด COMEX ได้ลดสถานะซื้อสุทธิลง 3,766 สัญญา เหลือ 230,592 สัญญา ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 มกราคม
- ราคาทองคำยังถูกกดดันจากการขายทำกำไร หลังจากราคาทะลุระดับสำคัญที่ 2,800 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 2,817.23 ดอลลาร์
ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters)