วิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้ 24-10-24 By Ausiris
ราคาทอง 24/10/67
โดย : บริษัท ออสสิริส จำกัด
ราคาทองคำโลกพุ่งต่อเนื่อง
ทำจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ใหม่ที่ระดับ 2,758 ดอลลาร์/ออนซ์ ก่อนที่จะปรับร่วงแรงปิดที่ระดับ 2,715 ดอลลาร์/ออนซ์ ในวันพุธที่ผ่านมา หลังตลาดได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้แรงหนุนหลักจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง สำหรับวันนี้
แนะติดตาม รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ จากธนาคารกลางสหรัฐฯ , จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการจาก S&P Global และยอดสั่งซิ้อสินค้าคงทนของสหรัฐ
สำหรับทิศทางทางดอกเบี้ยสหรัฐในมุมของนักลงทุนปัจจุบัน นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ในเดือนหน้า อ้างอิง CME’s Fed Watch นักลงทุนให้น้ำหนัก 89% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมเดือน พ.ย. รวมทั้งให้น้ำหนัก 67% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.
Ausiris คาดการณ์ว่าระยะยาวราคาทองคำจะยังคงทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 จากการที่กระแสเงินทุนจำนวนมากที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำท่ามกลางความไม่แน่นอนอย่างมากด้านเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และยุโรป อีกทั้งสงครามทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังสร้างความตึงเตรียดในภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก ทำให้ราคาทองโลกมีโอกาสแตะ 3,000 ในระยะ 12 เดือนข้างหน้า
การลดดอกเบี้ยโดยเฟดมักส่งผลบวกต่อราคาทองคำ โดยมีเหตุผลหลักๆ ดังนี้:
ต้นทุนค่าเสียโอกาสที่ลดลง: เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ผลตอบแทนจากการถือครองสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดดอกเบี้ย เช่น เงินฝากหรือพันธบัตร จะลดลง ทำให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง: การลดดอกเบี้ยโดยเฟดมักทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เนื่องจากนักลงทุนจะแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่าในสกุลเงินอื่น ทองคำซึ่งซื้อขายเป็นดอลลาร์สหรัฐ จะมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ส่งผลให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นและราคาทองคำสูงขึ้น
ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ: การลดดอกเบี้ยโดยเฟดมักเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอย ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรักษามูลค่าของเงินลงทุน ตัวอย่างจากอดีต: ช่วงปี 1995 – 1999, 2001 – 2004, และ 2007 – 2015: ในช่วงเวลาเหล่านี้ เฟดได้ลดอัตราดอกเบี้ย และราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะในระยะกลางถึงระยะยาวหลังจากการลดดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างการลดดอกเบี้ยของเฟดและราคาทองคำ ไม่ใช่กฎตายตัว และอาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีอิทธิพลต่อราคาทองคำด้วย เช่น อัตราเงินเฟ้อ สถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และความเชื่อมั่นของนักลงทุน ดังนั้น การตัดสินใจลงทุนในทองคำควรพิจารณาจากปัจจัยหลายๆ ด้าน ไม่ใช่เพียงแค่การคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพียงอย่างเดียว
สำหรับวันนี้ราคาทองโลกเปิดตลาดที่ระดับ 2,716 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และยังมีแรงหนุนฝั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่องในช่วงเช้า สำหรับราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศคาดการณ์ตอนเปิดตลาดขายออกบาทละ 43,550-43,600 บาท สำหรับมุมมองทางเทคนิคราคาทองคำโลกภาพรวมใหญ่ยังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น และยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลาย โดยเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น-กลาง-ยาว ทำ ความชัน แนวโน้ม Sideway up สะท้อนฝั่งซื้อยังได้เปรียบตลาด แต่เนื่องด้วยดัชนี Relative Strength Index (RSI) สูงเกิน 70 บ่งชี้ว่า ราคาทองได้เข้าสู่เขต “ซื้อมากเกินไป” ทำให้ราคาทองเผชิญแรงขายทำกำไรลงมาก่อน แต่ยังจะเป็นในลักษณะการปรับตัวลงเพื่อปรับตัวขึ้นต่อ สำหรับทองคำในประเทศคาดว่าจะยังคงได้รับแรงหนุนเชิงบวกจากค่าเงินบาทที่ยังเคลื่อนไหวอ่อนค่า
ราคาสูงสุดต่ำสุดของราคาทองโลกเมื่อวานนี้
สูงสุด 2,758 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่ำสุด 2,708 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธการลงทุนทองคำ (Buy)
ราคาทองโลก (Gold Spot):
แนวรับ 2,715/2,708 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวต้าน 2,730/2,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำทองคำแท่งน้ำหนัก 1 บาท 96.5%:
แนวรับ 43,450/43,350บาท
แนวต้าน 43,600/43,800บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้
รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ จากธนาคารกลางสหรัฐฯ , จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการจาก S&P Global และยอดสั่งซิ้อสินค้าคงทนของสหรัฐ
กองทุน SPDR ถือครอง 895.24 ตัน (+3.45ตัน)
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดอยู่ที่ระดับ 4.75-5.00%