ราคาทอง 12/5/68
โดย : YLG Bullion
วันศุกร์ ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 21.48 ดอลลาร์ต่อออนซ์
โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงท่ามกลางแรงขายทำกำไร ก่อนการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนจะเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์
อย่างไรก็ดี ราคาลดช่วงบวกลงในช่วงปลายตลาดสหรัฐ โดยได้รับแรงกดดันจากความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด ที่ตบเท้าออกมาย้ำจุดยืนที่ว่า เฟดไม่ควรรีบตัดสินใจลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อรอดูผลกระทบจาก Trump Tariffs
ขณะที่ เช้านี้ราคาทองคำเปิดตลาดในแดนลบ โดยได้รับแรงกดดันจากการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐที่สวิตเซอร์แลนด์ซึ่งผลลัพธ์การเจรจาจนถึงตอนนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ขณะที่อินเดีย-ปากีสถานประกาศหยุดยิงอย่างสมบูรณ์และทันที ซึ่ง Trade War ที่ de-escalation และความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่บรรเทาเบาบางลงบั่นทอนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ตารางสรุปแนวรับ-แนวต้าน
GOLD | |||
เเนวโน้ม | Sideway | ||
กลยุทธ์ | ดีดขาย-ลงซื้อคืน | ||
GOLD SPOT | |||
แนวต้าน | 3,314 | 3,347 | 3,369 |
แนวรับ | 3,260 | 3,240 | 3,201 |
STOP LOSS | 3,347 | ||
GOLD 96.5% | เงินบาท | 33.07 | |
แนวต้าน | 51,950 | 52,500 | 52,850 |
แนวรับ | 51,000 | 50,750 | 50,150 |
STOP LOSS | 52,500 |
คำแนะนำ
วันศุกร์ ราคาดีดตัวดีดตัวทดสอบ High 3,347 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมสัญญาณความอ่อนแรงของเทรนด์ระยะสั้นใน volume และ oscillators ทำให้เกิดการพักตัว ก่อนเช้านี้จะหลุด 3,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากปัจจัยพื้นฐาน ทำให้ราคากลับมา Sideway ในกรอบกว้าง
ขณะที่ระยะสั้นราคาเริ่ม Oversold และเกิด Bullish Divergence จึงมองว่าอาจเกิดการดีดตัวได้ระยะสั้น แต่หากดีดไม่ผ่าน 3,347 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังมอง Sideway-ลงต่อ สำหรับกลยุทธ์ หลังแบ่งขายทำกำไรทองคำไปแล้ว การเข้าสถานะใหม่รอขายหากราคาไม่ผ่าน 3,314-3,347 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซื้อคืนหากไม่หลุด 3,260-3,240ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน 3,347ดอลลาร์ต่อออนซ์)