ราคาทอง 14/5/68
โดย : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS GOLD)
ราคาทองคำทรงตัวโดยไม่ได้ปรับตัวลดลงจากแรงซื้อขายของนักลงทุน
โดยเมื่อวานนี้ราคาทองคำลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 3,215 เหรียญ โดยไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่ ซึ่งโดยรวมอาจทำให้ราคาทองคำหยุดการปรับตัวลงได้ ซึ่งต้องรอความชัดเจนในทิศทางจนถึงวันศุกร์
หากราคาทองคำยังไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ คาดว่าราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways สักระยะระหว่าง 3,225-3,280 เหรียญ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนระยะยาวในการเข้าซื้อสะสม
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ได้แก่ Core CPI m/m, CPI m/m และ CPI y/y ออกมาลดลงจากที่คาดการณ์ เรียกได้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ต่อการขึ้นกำแพงภาษี
โดยตัวที่น่าจะส่งผลกระทบต่อรายย่อยคือการที่สหรัฐฯ เตรียมลดภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าจากจีนที่มีมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อวัน หรือที่เรียกว่า “de minimis” โดยอัตราภาษี de minimis จะถูกปรับลดจากเดิม 120% เหลือเพียง 54%
สำหรับพัสดุมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์ พร้อมคงค่าธรรมเนียมคงที่ไว้ที่ 100 ดอลลาร์ต่อพัสดุ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 14 พ.ค. ภาพรวมด้านภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน, อินเดีย-ปากีสถาน และอิสราเอล-ฮามาส ยังคงมีการสู้รบกันต่อไป
ด้านดัชนีดอลลาร์เมื่อวานนี้เปิดที่ระดับ 101.72 จุด และขึ้นไปทำแข็งค่าสุดที่ระดับ 101.76 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ระดับ 100.92 จุด อ่อนค่าลงมาเล็กน้อย
ขณะที่ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 33.31 บาทต่อดอลลาร์ เรียกได้ว่าค่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ระยะสั้นระหว่าง 33.25-33.45 บาทต่อดอลลาร์
โดยคาดการณ์ว่า GDP ของไทยน่าจะโตไม่ถึง 3% ส่วน GDP ของจีนน่าจะมีแนวโน้มที่โตขึ้นมากกว่า 4% ขณะที่ทองคำไทยดูจะเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways ไม่ได้ปรับลดลงตามตลาดโลกมากนัก เนื่องจากค่าเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่า ทำให้ทองไทยเคลื่อนตัวระหว่าง 50,900-51,300 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งถือว่าเป็นการเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ
วิเคราะห์
ราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐานอีกครั้ง โดยคาดว่าวันนี้จะเคลื่อนตัวในกรอบ Sideways ซึ่งหากราคาทองคำไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่ภายใน 2 วัน จะยืนยันการกลับทิศทางของราคาทองคำได้ สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 3,225 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 3,270 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,255 เหรียญ และแนวต้าน 3,300 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 3,240 เหรียญ และแนวต้าน 3,285 เหรียญ ในส่วนของราคาทองไทยจะมีแนวรับระยะสั้นที่ 50,600 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 51,200 บาท/บาททองคำ
กลยุทธ์การลงทุน
แนะนำให้ซื้อขายในกรอบระยะสั้น ตามแนวโน้ม “Sideways” ระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ และหลีกเลี่ยงการใช้ leverage มากเกินไป เนื่องจากราคาอาจมีความผันผวน
– นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยปิดทำกำไรเป็นรอบๆ เน้นเทรดระยะสั้นลง รอจังหวะเปิดสถานะใหม่เมื่อราคาย่อตัว เฝ้าติดตามราคาทองคำระหว่างวัน
– นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังไม่แนะนำให้ถือสถานะ Short หากเปิดสถานะใหม่ควรรอเปิดสถานะบริเวณแนวต้าน และมีจุด Stop Loss ทุกครั้ง