บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 22 ธ.ค.65 by YLG
โดย : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)
คำแนะนำ
แนะนำขายทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว หากราคาทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,824-1,830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,803-1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ : 1,803 1,785 1,768 แนวต้าน : 1,830 1,847 1,865
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดลดลง 3.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ 1,811.10-1,823.72 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าในช่วงตลาดยุโรป ราคาทองคำจะเกิดการอ่อนตัวลง ตามการพักตัวของค่าเงินเยน ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงทดสอบกรอบล่าง ก่อนที่ราคาทองคำจะเริ่มดีดตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อ Buy the dip ซึ่งหนุนให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในระหว่างวัน
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ ส่วนหนึ่ง คือ นักลงทุนเทขายทำกำไรออกมาเป็นระยะหลังจากสัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ว่าแรงซื้อเริ่มชะลอความแข็งแกร่งลง ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ยังเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมา “ดีเกินคาด” อาทิ ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 108.3 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. อีกทั้งยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 100.5
ส่วนตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐลดลงเกินคาดสู่ระดับ 2.171 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2021 ซึ่งปัจจัยดังกล่าวกดดันราคาทองคำเพิ่ม ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้าย (GDP) ไตรมาส 3/2022, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ย.จาก CB
ปัจจัยทางเทคนิค
หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,824-1,830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (1,824 ระดับสูงสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมา)หากราคายังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,803-1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน
แนะนำเปิดสถานะขาย ทำกำไรระยะสั้น หากราคาทองคำไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,824-1,830 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอปิดสถานะขายทำกำไร หากการอ่อนตัวลงของราคาสามารถยืนเหนือโซน 1,803-1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยสถานะขายตัดขาดทุนหากราคายืน 1,830 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวสารประกอบการลงทุน
- (+) รัสเซียชี้ “เซเลนสกี” เยือนสหรัฐไม่เกิดประโยชน์ นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน แถลงว่า การเดินทางเยือนสหรัฐของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน จะไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด
- (+) อังกฤษเผยดัชนียอดค้าปลีกพุ่งขึ้นในเดือนธ.ค. สวนทางคาดการณ์ สมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (CBI) เปิดเผยดัชนียอดค้าปลีกพุ่งขึ้นสู่ระดับ +11 ในเดือนธ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ -23 จากระดับ -19 ในเดือนพ.ย. อย่างไรก็ดี ผลสำรวจระบุว่า ดัชนียอดค้าปลีกจะลดลงสู่ระดับ -17 ในเดือนม.ค.2566 บ่งชี้ว่าผู้บริโภคจะลดการใช้จ่ายในปีหน้า โดยถูกกดดันจากค่าครองชีพที่พุ่งขึ้น
- (-) สหรัฐเผยขาดดุลบัญชีเดินสะพัดลดลง 9.1% ในไตรมาส 3 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐลดลง 9.1% สู่ระดับ 2.171 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2564 นอกจากนี้ ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 3 คิดเป็นสัดส่วน 3.4% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยลดลงจากระดับ 3.8% ในไตรมาส 2 และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าของสหรัฐพุ่งขึ้น 7.2 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 5.47 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าลดลง 3.25 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 8.182 แสนล้านดอลลาร์
- (-) ดอลล์แข็งค่ารับความเชื่อมั่นผู้บริโภค จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (21 ธ.ค.) ขานรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งในเดือนธ.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.16% แตะที่ระดับ 104.1810 ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 132.24 เยน จากระดับ 131.58 เยน แต่อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9262 ฟรังก์ จากระดับ 0.9266 ฟรังก์ และทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3610 ดอลลาร์แคนาดา ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0613 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0617 ดอลลาร์ และเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2084 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2162 ดอลลาร์
- (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 526.74 จุด รับผลประกอบการไนกี้-เฟดเอ็กซ์ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดในวันพุธ (21 ธ.ค.) ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทไนกี้ และเฟดเอ็กซ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,376.48 จุด พุ่งขึ้น 526.74 จุด หรือ +1.60%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,878.44 จุด เพิ่มขึ้น 56.82 จุด หรือ +1.49% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,709.37 จุด เพิ่มขึ้น 162.26 จุด หรือ +1.54