โดย : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบ โดยยังมีแรงเทขายจากกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานศุกร์ขายออก 1.51 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 966.64 ตัน อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าราคาทองคำยังคงทรงตัวอยู่เหนือระดับ 1,710 เหรียญได้ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี และมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ท่ามกลางการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมัน ซึ่งคาดว่าอุปสงค์น้ำมันจะลดลงจากการล็อกดาวน์ของจีนแม้จะเข้าใกล้สู่ช่วงฤดูหนาวแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ดีในวันศุกร์ราคาน้ำมันดิบ WTI Futures ส่งมอบเดือนตุลาคม ปิดในคืนวันศุกร์ที่ระดับ 86.79 เหรียญต่อบาร์เรล บวกขึ้นมา 3.25 เหรียญต่อบาร์เรล สำหรับดัชนีดอลลาร์จะเห็นถึงการอ่อนค่าลงมาเล็กน้อย โดยเมื่อวันศุกร์เคลื่อนตัวระหว่าง 108.35 – 109.55 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 108.99 จุด ส่งผลให้ค่าเงินบาทปรับแข็งค่าหลุดระดับ 36.50 บาทต่อดอลาร์ลงมา ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 36.43 บาทต่อดอลลาร์
โดยภาพรวมของดัชนีดอลลาร์ยังอยู่ในเกณฑ์สูง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ยังอยู่ในเกณฑ์สูงเช่นกัน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 2 ปีอยู่ที่ 3.558% และ 10 ปี อยู่ที่ 3.321% ขณะเดียวกันจะเห็นได้ว่าราคาทองคำเริ่มทรงตัวแข็งแกร่งมากขึ้น
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำมี Technical Rebound ขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,710 เหรียญได้อย่างมั่นคงมาประมาณ 3 วัน ทำให้ภาพรวมราคาทองคำในระยะสั้นเริ่มปรับตัวดีขึ้นโดยราคาทองคำดูจะสามารถเคลื่อนตัวอยู่เหนือระดับ 1,700 เหรียญได้ วันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในกรอบแนวรับที่ 1,700 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,725 เหรียญ ยังคาดว่าเป็นสักษณะการเคลื่อนตัวในกรอบแบบ Sideways
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับที่ 1,705 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,730 เหรียญ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,710 เหรียญ และแนวต้าน 1,735 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 29,300 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 29,750 บาท/บาททองคำ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำลงทุนในกรอบ Sideways ลงซื้อขึ้นขาย เน้นเทรดเก็งกำไรระยะสั้น ตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน
– นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน ระวังความผันผวนของราคา
– นักลงทุนที่ถือ Short Position
เทรดระยะสั้นเก็งกำไรในกรอบ เปิดสถานะตามแนวต้านและปิดทำกำไรตามแนวรับเมื่อราคาย่อตัว