โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
ECB ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค.
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.
แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways
- ราคาทอง Spot เมื่อวานที่ผ่านมาปรับตัวลงเล็กน้อย โดยได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ท่ามกลางความกังวลของตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่พุ่งสูงจะเป็นปัจจัยผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. เพื่อสกัดเงินเฟ้อในยูโรโซนที่พุ่งแตะระดับ 8.1% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2540 ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมจากเมื่อวาน
- คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบรายเดือนจากเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบรายปี จากเพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบรายปี และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ของม.มิชิแกน (เบื้องต้น) ตลาดคาดว่าจะปรับลดลงสู่ระดับ 58.1 จากระดับ 58.4
- แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,840 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,830 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,860 ดอลลาร์ และ 1,870 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,847.4 | -5.6 | 1,840/1,830 | 1,860/1,870 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
30,200 | – | 30,000/29,900 | 30,450/30,600 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
30,360 | +30 | 30,180/30,070 | 30,480/30,660 |
สามารถเข้าซื้อบริเวณ 1,830 ดอลลาร์ (GF 30,070 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,820 ดอลลาร์ (GF 30,000 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,849.10 | -1.60 | 1,842/1,832 | 1,862/1,872 |
สามารถเข้าซื้อราคา GOM22 ที่ 1,832 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,822 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ทิศทางค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าจากการคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. ทั้งนี้แนวโน้มค่าเงินบาทคาดว่ายังมีทิศทางอ่อนค่า สำหรับ USD Futures เดือนมิ.ย.65 มีแนวรับที่ 34 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 34.70 บาท/ดอลลาร์
News
โกลด์แมนแซคส์เชื่อมั่นเยนมีแนวโน้มแข็งค่า หากศก.สหรัฐชะลอตัว-ญี่ปุ่นปรับนโยบาย
นายแซค แพนเดิล นักยุทธศาสตร์ด้านการลงทุนของบริษัทโกลด์แมน แซคส์ ยังคงมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มของสกุลเงินเยน แม้ว่าเงินเยนอาจจะร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในวันข้างหน้าก็ตาม นายแพนเดิลกล่าวว่า มีสองปัจจัยที่จะทำให้เงินเยนมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นได้แก่ การที่เศรษฐกิจสหรัฐมีทิศทางชะลอตัวลง หรือการที่ธนาคารกลางปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินหรือเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา โดยปัจจัยหลังนั้นจะเกิดจากการที่อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นดีดตัวขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังอยู่ในระดับสูง และจากการเปิดประเทศของญี่ปุ่น “เรามองเห็นโอกาสมากขึ้นที่ญี่ปุ่นจะปรับเปลี่ยนนโยบาย ซึ่งรวมถึงการเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา หรือปรับนโยบายการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (yield-curve control) และเราคาดว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐอาจส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงราว 15% – 20% เมื่อเทียบกับเงินเยน” นายแพนเดิลกล่าว ที่ผ่านมานั้น ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เดินหน้าควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนภายใต้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการใช้มาตรการที่สวนทางกันเช่นนี้ทำให้เงินเยนทรุดตัวลง และดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้ นายแพนเดิลคาดว่า ในระยะใกล้นี้ ความเคลื่อนไหวของเงินเยนจะขึ้นอยู่กับปัจจัยกระตุ้นหลายประการ ซึ่งรวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่จะมีการรายงานในวันศุกร์นี้ รวมทั้งการประชุมของเฟดและ BOJ ในสัปดาห์หน้า
วุฒิสภาสหรัฐจ่ออนุมัติกม.คุมยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีหาประโยชน์จากผลการค้นหาข้อมูล
นางเอมี โคลบูชาร์ วุฒิสมาชิกสหรัฐ และสมาชิกสภาจากทั้งสองพรรคการเมืองเปิดเผยว่า พวกเขาได้คะแนนเสียงจากวุฒิสภาสหรัฐมากพอที่จะผ่านร่างกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุม 4 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่แล้วได้แก่ เฟซบุ๊กของเมตา, แอปเปิล, กูเกิลของอัลฟาเบท และแอมะซอนดอตคอม พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการลงคะแนนเสียงร่างกฎหมายดังกล่าว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะห้ามบริษัทเทคโนโลยีจากการกระทำที่เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจของตนผ่านผลการค้นหาข้อมูล และช่องทางอื่น ๆ “เราจะไม่ขอให้มีการลงมติ หากเราไม่มั่นใจว่าจะได้คะแนนถึงเกณฑ์ 60 เสียง” นางโคลบูชาร์กล่าว โดยทั่วไปแล้วจะต้องมีวุฒิสมาชิกสนับสนุนร่างกฎหมายแต่ละฉบับมากถึง 60 คน จึงจะสามารถข้ามการอภิปราย และเดินหน้าลงมติขั้นสุดท้ายได้ แหล่งข่าวเปิดเผยว่า วุฒิสภามีแนวโน้มลงมติร่างกฎหมายควบคุมบริษัทเทคโนโลยีฉบับนี้ในช่วงฤดูร้อน โดยอาจเกิดขึ้นเร็วที่สุดในช่วงปลายเดือนมิ.ย.นี้ และหลังจากนั้นก็คาดว่าสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติร่างกฎหมายฉบับของวุฒิสภา บรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระบุว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะส่งผลกระทบกับผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของผู้บริโภค เช่น กูเกิลแม็ปส์ และแอมะซอน เบสิกส์ โดยจะทำให้บริษัทเผชิญความยากลำบากมากขึ้นในการปกป้องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
“ไบเดน” เตรียมเยือนยุโรปเข้าร่วมประชุมซัมมิต G7, นาโต
ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ จะเดินทางเยือนยุโรปในเดือนนี้เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G7 และการประชุมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนจะเดินทางถึงเยอรมนีในวันที่ 25 มิ.ย.เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G7 เป็นเวลา 3 วัน ก่อนที่จะเดินทางไปยังกรุงมาดริดของสเปนในวันที่ 28 มิ.ย.เพื่อร่วมการประชุมนาโต โดยจะมีการเชิญผู้นำญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลียเข้าร่วมการประชุมเช่นกัน