โดย : บริษัท ออสสิริส จำกัด
ราคาทองปิดบวกเหนือ 2,000 หรือ 32,500 บาทราคาทองไทย เกิดจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ
ท่ามกลางความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากเฟดได้มีการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ประสบภาวะชะลอตัวในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ไว้ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 240,000 ราย ในขณะที่ยอดขายบ้านมือสองลดลง 2.4% ได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ย
แนวโน้มราคาทองคำเช้านี้เคลื่อนไหวปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเหนือระดับ 2,000 หรือประมาณ 32,500 กว่าบาท
ภาพใหญ่ของกราฟยังเคลื่อนไหวในรูปแบบ Sideway up หากเบรคแนวต้าน 2,015 ได้ ราคาทองมีเป้าหมายถัดไปคือ 2,020-2,048 จะปรับตัวเป็นขาขึ้นได้อีกครั้ง
ราคาทองคำจะเสียรูปแบบขาขึ้นก็ต่อเมื่อปิดหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,980-1,976 ซึ่งมองได้ว่าหากยังไม่หลุดโซนดังกล่าวยังสามารถทำกำไรในฝั่งย่อซื้อได้ในระยะสั้น และควรตั้งจุดตัดขาดทุนเอาไว้จากอยู่ในช่วงการปรับฐาน
แนะนำเข้าย่อซื้อทองคำที่เป้าหมายภายในวันอยู่ที่ 2,015-2,020
ราคาทองเมื่อวาน High 2,012 / Low 1,990
กลยุทธการลงทุนทองคำ
Gold Spot : แนวรับ 1,990/1,980 แนวต้าน 2,015/2,020 จุดตัดขาดทุน 1,976
ทองคำ96.5% : แนวรับ 32,350/32,250 แนวต้าน 32,600/32,700 จุดตัดขาดทุน 32,200
ทองคำ99.99% : แนวรับ 33,500/33,400 แนวต้าน 33,800/33,900 จุดตัดขาดทุน 33,350
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
ค่าเงินวันนี้
ค่าเงินบาทเปิดตลาด 34.32 บาท/ดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเปิดตลาด 101.51 ดอลลาร์ คาดเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า กรอบเงินบาทวันนี้ 34.30-34.50 บาทต่อดอลลาร์
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ
1.เวลา 20.45น. Flash Manufacturing PMI สหรัฐฯ ตัวเลขครั้งก่อน 49.2 ตัวเลขคาดการณ์ 49(คาดการณ์เป็นบวกต่อทอง)
2. เวลา 20.45น. Flash Services PMI สหรัฐฯ ตัวเลขครั้งก่อน 52.6 ตัวเลขคาดการณ์ 51.5 (คาดการณ์เป็นบวกต่อทอง)
กองทุน SPDR ถือครอง 926.57ตัน (คงที่)
อัตราเงินเฟ้อสหรัฐล่าสุดชะลอตัวลงเหลือ 5% ในเดือนมีนาคม 2566 ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 แม้จะมีการปรับลดจากเดือนกุมภาพันธ์จากเดิม 6% แต่ก็ยังไม่ถึง 2% ตามที่เฟดต้องการทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจำเป็นที่จะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไปอย่างน้อยอีก 1ครั้ง ในการประชุมเฟดครั้งถัดไป
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ 4.75-5.00% นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 11.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%
