โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
ทองคำปรับขึ้นทะลุแนวต้าน 1,800 ดอลลาร์
คืนนี้ติดตามการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีของประธานเฟด
ราคาทองคำคาดปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,820 ดอลลาร์
- ราคาทองคำSpot เมื่อวานปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ทะลุแนวต้าน 1,800 ดอลลาร์เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ และเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ขณะเดียวกันนักลงทุนรอติดตามการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ต่อสภาคองเกรสในวันนี้และวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้กองทุน SPDRGold Trust ขายทองคำ 12.24 ตันเมื่อวาน หลังจากขายทองคำ 14.58 ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- คืนนี้ติดตามการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐนอกจากนี้คืนนี้สหรัฐจะประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 90.2 จากระดับ 89.3 ในเดือนม.ค.
- แนวโน้มราคาทองคำ Spot คาดปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,820 ดอลลาร์ทองคำมีแนวต้านที่ 1,820 ดอลลาร์ และ 1,830 ดอลลาร์ขณะที่มีแนวรับที่ 1,800 ดอลลาร์ และ 1,780 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,808.90 | +25.55 | 1,800/1,780 | 1,820/1,830 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg | Support | Resistance |
25,780 | +110 | 25,720/25,430 | 25,960/26,100 |
แนะนำเปิดสถานะซื้อที่ราคาทอง Spot1,800 ดอลลาร์ (GF 25,720บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,780 ดอลลาร์(GF 25,430บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,810.30 | +11.70 | 1,802/1,782 | 1,822/1,832 |
แนะนำเปิดสถานะซื้อที่ราคาGOH21 1,802 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,782 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดจะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยเฉพาะเงินปอนด์ เนื่องจากนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น
สำหรับ USD Futures เดือนมี.ค.64 คาดจะมีแนวรับที่ 29.90 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 30.10 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ:เงินปอนด์แข็งค่ารับความหวังอังกฤษผ่อนคลายล็อกดาวน์
เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา (22 ก.พ.) ขานรับความหวังที่ว่านายบอริสจอห์นสันนายกรัฐมนตรีอังกฤษจะประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินลดลง 0.37% สู่ระดับ 90.0300 เมื่อคืนนี้
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ:ทองปิดพุ่ง $31 รับแรงซื้อสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อ
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (22 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรมพาวเวลประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ, อัตราเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐสัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 31 ดอลลาร์หรือ 1.74% ปิดที่ 1,808.4 ดอลลาร์/ออนซ์สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 83.1 เซนต์หรือ 3.05% ปิดที่ 28.085 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ:น้ำมันWTI ปิดพุ่ง $2.25 คาดการผลิตน้ำมันในเท็กซัสล่าช้า
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา (22 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าการกลับมาผลิตน้ำมันในรัฐเท็กซัสจะเป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้กระทบต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซในพื้นที่ดังกล่าวสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 2.25 ดอลลาร์หรือ 3.8% ปิดที่ 61.49 ดอลลาร์/บาร์เรลสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 2.33 ดอลลาร์หรือ 3.7% ปิดที่ 65.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดหุ้นต่างประเทศ:ดาวโจนส์ปิดบวกเพียง 27.37 จุดกังวลผลกระทบบอนด์ยีลด์พุ่ง
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนเนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงหนักสุดและเป็นปัจจัยฉุดดัชนีNasdaq ดิ่งลงกว่า 2.4% อย่างไรก็ดีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบWTI ทะยานขึ้นเกือบ 4% ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,521.69 จุดเพิ่มขึ้น 27.37 จุดหรือ +0.09% ขณะที่ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,876.50 จุดลดลง 30.21 จุดหรือ -0.77% และดัชนีNasdaq ปิดที่ 13,533.05 จุดลดลง 341.42 จุดหรือ -2.46%