ราคาทอง 25/5/66
โดย : บริษัท ออสสิริส จำกัด
ราคาทองคำในตลาดโลกดิ่งไม่หยุดปิดลบ 15 usd/oz ปิดที่ระดับ 1,959 usd/oz
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่องหลังนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาเพดานหนี้สหรัฐฯ ซึ่งยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้
หากทำเนียบขาวและสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันที่ 1 มิ.ย. ก็จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้ง
ราคาทองได้รับปัจจัยลบจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐซึ่งกล่าวหนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
แนวโน้มราคาทองคำ
เช้านี้ราคาทองคำเปิดตลาดไปที่ 1,959 หรือประมาณเกือบ 32,200 บาท
ราคาทองมียังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด ภาพรวมยังเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำกว่า 1,986 ยังบ่งบอกว่ายังอยู่ในแนวโน้มขาลง การย่อซื้อยังเสียเปรียบ เก็งกำไรได้ในระยะสั้นเท่านั้น
มีจุดตัดขาดทุนอยู่ที่ 1943 ทั้งนี้ขาขึ้นจะกลับมาได้เปรียบอีกครั้งหากกลับมายืนเหนือ 1,986 ซึ่งหากเบรกผ่านแนะซื้อเพิ่มโดยมีเป้าถัดไปที่ 1,993-2,000 ทั้งนี้หากเบรคไม่ผ่านแนะขายทำกำไรบางส่วนก่อน
ราคาทองเมื่อวาน High 1985 usd/oz Low 1956 usd/oz
การลงทุนทองคำ (Buy)
Gold Spot: แนวรับ 1951/1943 usd/oz แนวต้าน 1977/1986 usd/oz
ทองคำ96.5%: แนวรับ 32,100/32,000 บาท แนวต้าน 32,400/32,500 บาท
ทองคำ99.99%:แนวรับ 33,260/33,160 บาท แนวต้าน 33,570/33,670 บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน
ค่าเงินบาท
เงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่าที่ 34.67 บาทต่อดอลลาร์ จากปัจจัยเฟดมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปัจจัยภายในประเทศอย่างความไม่แน่นอนของการจัดตั้งรัฐบาลนับเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในประเทศ
มองกรอบเงินบาทวันนี้ 34.50-34.90 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่สกุลดอลลาร์สหรัฐ เปิดตลาดแข็งค่าที่ 103.85 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้
1.เวลา 19.30น.จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ตัวเลขครั้งก่อน 242K ตัวเลขคาดการณ์ 249K(+ทอง)
2.เวลา 19.30น.ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566
ตัวเลขครั้งก่อน 1.1% ตัวเลขคาดการณ์ 1.1%
3.เวลา 21.00น. ยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales)เดือนเม.ย.
ตัวเลขครั้งก่อน -5.2% ตัวเลขคาดการณ์ 1.0% (-ทอง)
กองทุน SPDR ถือครอง 941.29 ตัน (คงที่)
อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดอยู่ที่ระดับ 5.00-5.25% ซึ่งนักลงทุนให้น้ำหนัก 66.4% มีแนวโน้มที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมวันที่ 14 มิ.ย. และให้น้ำหนัก 33.6% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50%อ้างอิงจาก CME GROUP
ภาพรวมน้ำหนักฝั่งที่คาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องนับเป็นปัจจัยลบต่อทอง