GOLD.in.th
ราคาทองวันนี้ ข่าวสาร วิเคราะห์ ทองคำ
เพิ่มเพื่อน

เพิ่มเพื่อนบัญชีทางการของเราเพื่อรับข่าวสารล่าสุด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 30 ส.ค.64 by YLG

488

- Advertisement -

โดย  : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)

คำแนะนำ :

เปิดสถานะซื้อหากราเปิดสถานะซื้อหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,807-1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง และทยอยปิดสถานะทำกำไรหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,833-1,849 ดอลลาร์ต่อออนซ์คาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,807-1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง และทยอยปิดสถานะทำกำไรหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,833-1,849 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ : 1,807 1,789 1,770  แนวต้าน : 1,833 1,849 1,864

จจัยพื้นฐาน :

- Advertisement -

ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดทะยานขึ้น 26.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์  ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนทั้งในช่วงก่อนหน้า  ระหว่างและหลังจากที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวถ้อยแถลงในการประชุม Jackson Hole Economic Policy Symposium ทั้งนี้  นายพาวเวลล์ระบุว่า  เฟดอาจเริ่มปรับวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปีนี้  ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ราคาปรับตัวลงไปทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,783.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์  อย่างไรก็ดีราคาทองคำดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากนายพาวเวลล์ไม่ได้ให้กำหนดเวลาที่แน่นอนในการเริ่มลด QE  ซึ่งแตกต่างจากเจ้าหน้าที่เฟดรายอื่นๆไม่ว่าจะเป็นประธานเฟดเซนต์หลุยส์ที่ต้องการให้เฟดดำเนินการลด QE ในตอนนี้  เพื่อให้โครงการดังกล่าวยุติลงภายในสิ้นไตรมาสที่ 1 ของปี 2022 และประธานเฟดคลีฟแลนด์ ที่ออกมาระบุว่าเฟดควรเริ่มลด QE ในปีนี้ก่อนที่จะยุติโครงการดังกล่าวในช่วงกลางปีหน้า  ขณะเดียวกัน  นายพาวเวลล์ยังส่งสัญญาณชัดว่า เฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย  พร้อมเสริมว่าการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์เดลต้าได้สร้างความเสี่ยงต่อตลาดแรงงาน  สะท้อนจุดยืนในเชิง Dovish มากกว่าเจ้าหน้าที่เฟดรายอื่นๆ  อีกทั้งยัง Dovish มากกว่าตลาดคาดการณ์ไว้  นั่นทำให้ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.39% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดที่1.300% จนเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้น35ดอลลาร์ต่อออนซ์จากระดับต่ำสุดในระหว่างวันสู่ระดับสูงสุดบริเวณ  1,819.09  ดอลลาร์ต่อออนซ์  ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอดปิดการขายของสหรัฐ

จจัยทางเทคนิค :

ราคาทองคำพยายามทรงตัวในระดับสูงระยะสั้นประเมินแนวรับในบริเวณ 1,807-1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากยืนได้แข็งแกร่ง  ลุ้นราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้านโซน  1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับสูงสุดของเดือน ก.ค.) หากไม่ผ่านอาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นเข้ามาหากผ่านได้ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไป  1,849ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน :

เปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,807-1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมลดการลงทุนหากราคาหลุด 1,789 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้อาจพิจารณาแบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านต้านบริเวณ 1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านได้ชะลอการปิดสถานะซื้อไปที่แนวต้านถัดไปบริเวณ 1,849 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน :

  • (+) ไบเดนเผยสนามบินกรุงคาบูลมีแนวโน้มโดนโจมตีอีกใน 1-2 วันนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ว่า ทีมความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐเตือนว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่สนามบินในกรุงคาบูลอาจถูกโจมตีอีกครั้งใน 24-36 ชั่วโมงข้างหน้า  ปธน.ไบเดนกล่าวว่า “สถานการณ์ภาคพื้นดินยังคงเป็นอันตรายอย่างยิ่ง และโอกาสที่ผู้ก่อการร้ายจะคุกคามสนามบินยังคงมีสูงมาก” และเสริมว่า เขาได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาสหรัฐดำเนินทุกมาตรการที่เป็นไปได้เพื่อจัดลำดับความสำคัญในการป้องกันกองกำลัง
  • (+) สหรัฐโจมตีสมาชิกกลุ่ม IS ในอัฟกานิสถาน เชื่อมีเอี่ยวเหตุระเบิดสนามบินสำนักข่าวเอพีรายงานว่า กองทัพสหรัฐได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อสมาชิกของกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ในอัฟกานิสถานในวันนี้ (28 ส.ค.) ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นภายในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมงหลังจากที่กลุ่ม IS อ้างว่าได้ก่อเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สนามบินในกรุงคาบูลซึ่งส่งผลให้ชาวอัฟกัน 169 คนและทหารอเมริกัน 13 คนเสียชีวิต
  • (+) “พาวเวล” พูดชัดเล็งหั่น QE ก่อนสิ้นปี แต่เฟดยังไม่เร่งขึ้นดบ.นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณในวันนี้ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปีนี้  อย่างไรก็ดี นายพาวเวลระบุว่า การที่เฟดปรับลด QE ไม่ได้หมายความว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า  “เฟดมองว่ามีความเหมาะสมที่จะเริ่มการปรับลด QE ในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจมีความคืบหน้ามากขึ้นจากการรายงานตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งในเดือนก.ค. และเฟดจะทำการประเมินข้อมูลที่ได้รับอย่างระมัดระวัง รวมทั้งความเสี่ยงที่เกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา” นายพาวเวลกล่าวในการประชุมประจำปีของเฟดผ่านทางระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์  ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้มาถึงจุดที่ไม่มีความจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากนโยบายเฟดอีกต่อไป ซึ่งหมายความว่าเฟดมีแนวโน้มปรับลดวงเงิน QE ก่อนสิ้นปีนี้ ตราบใดที่เศรษฐกิจยังคงมีการขยายตัว  “กำหนดเวลาและอัตราการปรับลด QE ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณโดยตรงถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเราจะมีบททดสอบที่เข้มงวดมากขึ้น และแตกต่างออกไป” นายพาวเวลกล่าว
  • (+) ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐต่ำสุดรอบเกือบ 10 ปีผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 70.3 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2554 จากระดับ 81.2 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 70.7
  • (+) ดอลล์อ่อนค่า หลัง “พาวเวล” ยันเฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้จะมีการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปีนี้ก็ตาม  ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.39% แตะที่ 92.6893 เมื่อคืนนี้  ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.82 เยน จากระดับ 110.02 เยน, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9115 ฟรังก์ จากระดับ 0.9181 ฟรังก์สวิส และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2619 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2684 ดอลลาร์แคนาดา  ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1793 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1753 ดอลลาร์, ปอนด์แข็งค่าแตะที่ระดับ 1.3767 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3695 ดอลลาร์
  • (-) ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 242.68 จุด ขานรับ “พาวเวล” ยันเฟดไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮเป็นวันที่ 4 ในสัปดาห์นี้ ขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยืนยันว่า เฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้จะมีการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปีนี้ก็ตาม
  • (+/-) สหรัฐเผยดัชนี PCE พื้นฐานพุ่ง 3.6% ในเดือนก.ค. สูงสุดรอบ 30 ปีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ พุ่งขึ้น 3.6% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2534 สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ หลังจากดีดตัวขึ้น 3.6% เช่นกันในเดือนมิ.ย.
  • (+/-) สหรัฐเผยการใช้จ่ายส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. สอดคล้องคาดการณ์กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ในเดือนก.ค. สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ หลังจากพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนมิ.ย.

- Advertisement -

Comments
Loading...