ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำทรงตัวอยู่ที่บริเวณ 1,925 เหรียญโดยปรับตัวขึ้นลงไม่มากนัก ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่ง ได้แก่ Core PCE Price Index m/m และ Personal Income m/m ออกมาตามตลาดคาดการณ์
ขณะที่ Pending Home Sales m/m และ Revised UoM Consumer Sentiment ออกมาสูงกว่าคาด ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น
โดยเมื่อวันศุกร์ดัชนีดอลลาร์เปิดที่ระดับ 101.71 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ 101.68 จุด ก่อนขึ้นมาปิดที่ 101.93 จุด ขณะที่เช้านี้อยู่ที่ 101.99 จุด ด้านค่าเงินบาททรงตัวอยู่ใกล้เคียงเดิม
โดยเมื่อวันศุกร์ค่าเงินบาท เคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 32.76 – 32.95 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เช้านี้อยู่ที่บริเวณ 32.78 บาทต่อดอลลาร์
สำหรับกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวันศุกร์ขายออก 0.87 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 918.5 ตัน ภาพรวมตลาดยังคงรอการประชุมเฟดในวันอังคารที่ 31 ม.ค. และจะมีการแถลงมติการประชุมในวันพุธที่ 1 ก.พ.
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำอยู่ในช่วงของการพักฐานที่บริเวณ 1,920 – 1,930 เหรียญ เพื่อรอข่าวสำคัญ และความชัดเจนของทิศทางนโยบายการเงินเฟด ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 31 ม.ค. – 1 ก.พ.
สำหรับวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะอยู่ในกรอบ โดยมีแนวรับที่ 1,915 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,940 เหรียญ
สำหรับ Gold Online Futures คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,930 เหรียญ และแนวต้าน 1,960 เหรียญ และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,915 เหรียญ และแนวต้าน 1,940 เหรียญ
สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับที่ 29,700 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านที่ 30,000 บาท/บาททองคำ
Gold Futures Series G23 จะมีแนวรับที่ระดับ 30,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 30,350 บาท
โดยเน้นย้ำนักลงทุนว่า ราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สอาจจะแตกต่างกันประมาณ 5 – 15 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
แนะนำ Sideways Up เทรดซื้อขายตามกรอบแนวโน้มทิศทางขาขึ้น ลงซื้อขึ้นขาย ตามการแกว่งตัวของราคาระหว่างวัน
– นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรเมื่อราคาดีดกลับ
– นักลงทุนที่ถือ Short Position
ใช้กลยุทธ์ Wait & See หรือเปิดสถานะบริเวณแนวต้านเท่านั้น และควรมี Stop Loss หากราคาผ่านเเนวต้านได้
ขอขอบคุณ : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)