บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 27 ก.ย.64 by HGF
โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
สัปดาห์ก่อนทองคำลงเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่า 1 ปี
สัปดาห์นี้ติดตามจีดีพีไตรมาส 2 ดัชนีราคา PCEพื้นฐานสหรัฐ
ราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,737-1,760 ดอลลาร์
- ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำSpot ปรับขึ้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน แต่ในช่วงปลายสัปดาห์มีแรงเทขายทองคำหลังการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ซึ่งเฟดส่งสัญญาณปรับลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในไม่ช้า และกรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 ซึ่งเร็วกว่า 1 ปีเมื่อเทียบกับคาดการณ์เดิมในเดือนมิ.ยนอกจากนี้ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ตกลงที่จะชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ทางด้านกองทุน SPDRขายทองคำ8.14ตันในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- สัปดาห์นี้ติดตามติดตามจีดีพีสหรัฐไตรมาส 2 ดัชนีราคา PCEพื้นฐานของสหรัฐเดือนส.ค. สถานการณ์ของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธปท.ที่น่าสนใจเป็นอัตราเงินเฟ้อสหรัฐเพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าเดิม ซึ่งตลาดคาดดัชนีราคา PCEพื้นฐานของสหรัฐเดือนส.ค. จะเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบรายปีส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอื่นๆได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนก.ย. ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.ย.
- แนวโน้มราคาทองคำคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,737-1,760 ดอลลาร์ ระยะสั้นทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,737 ดอลลาร์และ 1,730 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,760 ดอลลาร์และ 1,770 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,749.98 | +7.68 | 1,737/1,730 | 1,760/1,770 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
27,750 | – | 27,550/27,400 | 27,850/28,000 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
27,760 | -220 | 27,680/27,520 | 28,010/28,150 |
แนะนำเปิดสถานะขายเมื่อราคาทอง Spot ปรับขึ้นมาที่บริเวณ 1,770 ดอลลาร์ (GF 28,150บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,780 ดอลลาร์ (GF 28,300บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,748.30 | -22.70 | 1,738/1,731 | 1,761/1,771 |
แนะนำเปิดสถานะขายเมื่อราคา GOU21ปรับขึ้นมาที่บริเวณ 1,771 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,781ดอลลาร์
ค่าเงิน
ทิศทางเงินบาทในวันนี้คาดอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ทั้งนี้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.เพิ่มขึ้นเกินคาดและเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธปท.และประมาณการเศรษฐกิจของไทย ซึ่งอาจจะกระทบต่อเงินบาท โดยUSD Futures เดือนก.ย.2564 คาดจะมีแนวรับที่ 33.30บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 33.60 บาท/ดอลลาร์
News
ตลาดการเงินต่างประเทศ: ดอลล์แข็งค่าเทียบยูโร,ปอนด์ขานรับยอดขายบ้านใหม่เพิ่ม
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ย.) ขณะที่เงินยูโรและปอนด์อ่อนค่าลงหลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนส.ค. ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.32% แตะที่ 93.3266 เมื่อคืนนี้
ตลาดโลหะมีค่าต่างประเทศ : ทองปิดบวก 1.9 ดอลล์จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับการที่จีนทำการกวาดล้างธุรกิจที่เกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตและสถานการณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับบริษัทเอเวอร์แกรนด์ของจีนนั้นได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.9 ดอลลาร์หรือ 0.11% ปิดที่ 1,751.7 ดอลลาร์/ออนซ์และปรับตัวขึ้น 30 เซนต์ในรอบสัปดาห์นี้สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 25.4 เซนต์หรือ 1.12% ปิดที่ 22.425 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดน้ำมันดิบต่างประเทศ :น้ำมันWTI ปิดบวก 68 เซนต์ขานรับอุปสงค์แกร่ง-อุปทานตึงตัว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ก.ย.) และปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีโดยได้แรงหนุนจากภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวประกอบกับอุปสงค์ที่เป็นไปอย่างแข็งแกร่งสัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 68 เซนต์หรือ 0.9% ปิดที่ 73.98 ดอลลาร์/บาร์เรลและในรอบสัปดาห์นี้พุ่งขึ้น 3% สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 84 เซนต์หรือ 1.1% ปิดที่ 78.09 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2561 และในรอบสัปดาห์นี้พุ่งขึ้นเกือบ 3.7%
ตลาดหุ้นต่างประเทศ : ดาวโจนส์ปิดบวก 33.18 จุดหุ้นเทสลา-เฟซบุ๊กพุ่งหนุนตลาด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่าน (24 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทสลาและหุ้นเฟซบุ๊กซึ่งช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นไนกี้นอกจากนี้ตลาดยังคลายความวิตกเกี่ยวกับปัญหาของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ของจีนดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,798.00 จุดเพิ่มขึ้น 33.18 จุดหรือ +0.10%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,455.48 จุดเพิ่มขึ้น 6.50 จุดหรือ +0.15% และดัชนีNasdaqปิดที่ 15,047.70 จุดลดลง 4.54 จุดหรือ -0.03% ในรอบสัปดาห์นี้ดัชนีดาวโจนส์บวก 0.6%, ดัชนีS&P500 บวก 0.5% และดัชนีNasdaqทรงตัวโดยปรับตัวขึ้นไม่ถึง 0.1%
ผลสำรวจชี้บริษัทสหรัฐมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในจีนสูงสุดในรอบ3ปี
หอการค้าอเมริกันในเซี่ยงไฮ้ (AmCham Shanghai) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นบริษัทอเมริกันในจีนระบุว่าบริษัทสหรัฐมีมุมมองที่เป็นบวกต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของจีนที่ระดับสูงสุดในรอบ3ปีถึงแม้จะมีท่าทีที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายด้านโควิด-19ของจีนก็ตามสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าหอการค้าอเมริกันฯได้จัดทำผลสำรวจดังกล่าวขึ้นร่วมกับPwC เมื่อช่วงกลางเดือนมิ.ย.-กลางเดือนก.ค.ที่ผ่านมาครอบคลุมบริษัท338แห่งโดยในปีนี้บริษัท78%มีมุมมองที่เป็นบวกหรือค่อนข้างเป็นบวกเกี่ยวกับแนวโน้มทางธุรกิจในระยะ5ปีซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ20%จากระดับเมื่อปี2563และกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับปี2561เหตุผลที่บริษัทอเมริกันมีมุมมองเชิงบวกนั้นมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นรวมถึงความกังวลที่ลดลงเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในจีนซึ่งสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ในวงกว้างอย่างไรก็ดีมาตรการควบคุมธุรกิจในวงกว้างของรัฐบาลจีนยังสร้างความกังวลแก่บริษัทอเมริกันด้วยนายเคอร์กิบส์ประธานหอการค้าอเมริกันในเซี่ยงไฮ้กล่าวว่า “ธุรกิจในจีนฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการล็อกดาวน์เมื่อปีที่แล้ว” และเพิ่มเติมว่า “อย่างไรก็ดีเรายังคงรู้สึกได้ถึงผลกระทบจากการระบาดโดยยังคงมีสมาชิกของเราที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการจำกัดการเดินทางของจีนถึงแม้ว่าธุรกิจโดยรวมจะอยู่ในเกณฑ์ดีแต่สัญญาณของความกังวลก็ยังคงมีอยู่” ทั้งนี้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนถึงจุดต่ำสุดในปี2562ในสมัยของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ซึ่งนำไปสู่การทำสงครามการค้ากับจีนอย่างดุเดือดและขยายวงไปสู่การคว่ำบาตรบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีนบางแห่งด้วย
“เคธีวูด” เชื่อตลาดหุ้นสหรัฐยังไม่เจอภาวะฟองสบู่-เล็งขายหุ้นเทสลาหากถึงเป้า
นางเคธีวูดซีอีโอบริษัทARK Investment Management ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นสหรัฐยังไม่อยู่ในภาวะฟองสบู่หรือมีมูลค่าที่สูงเกินไป “เท่าที่ดิฉันรู้คือตลาดหุ้นสหรัฐยังไม่เผชิญภาวะฟองสบู่” นางวูดกล่าวในระหว่างการประชุมMorningstar Investment Conference
ฟิทช์หั่นคาดการณ์GDP จีนปีนี้เหลือ8.1%หวั่นวิกฤตอสังหาฯฉุดดีมานด์
ฟิทช์เรทติ้งส์ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปีนี้ลงสู่ระดับ8.1%จากระดับ8.4%โดยระบุว่าการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์จีนจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ภายในประเทศฟิทช์ประกาศปรับลดคาดการณ์GDP ของจีนในวันนี้หลังจากที่เมื่อวานนี้แบงก์ออฟอเมริกาได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขGDP ปีนี้ของจีนลงสู่ระดับ8%จากระดับ8.3%และได้ปรับลดGDP ในปีหน้าลงสู่ระดับ5.6%จากระดับ6.2%อันเนื่องมาจากปัญหาหนี้สินของบริษัทเอเวอร์แกรนด์, การแพร่ระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19และการที่รัฐบาลออกมาตรการควบคุมภาคธุรกิจเป็นวงกว้าง
FDA ไฟเขียวฉีดไฟเซอร์เข็มบูสเตอร์ให้ผู้สูงอายุ-กลุ่มเสี่ยงสูงในสหรัฐ
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19เข็มบูสเตอร์ของไฟเซอร์-ไบออนเทคให้กับชาวอเมริกันที่มีอายุ65ปีขึ้นไปและกลุ่มเสี่ยงสูงหลังจากที่ประชาชนในกลุ่มดังกล่าวได้รับวัคซีนครบ2โดสแล้วเป็นระยะเวลา6เดือนซึ่งจะทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากมีสิทธิ์ได้รับวัคซีนบูสเตอร์ในขณะนี้ทั้งนี้มติดังกล่าวของFDA เป็นไปตามคำแนะนำของคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีนและผลิตภัณฑ์ชีวภาพในการประชุมนานกว่า8ชั่วโมงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17ก.ย.) โดยทางคณะกรรมการฯโหวต16-2คัดค้านไม่ให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่ชาวอเมริกันอายุ16ปีขึ้นไปก่อนจะมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ฉีดวัคซีนบูสเตอร์แก่ชาวอเมริกันสูงอายุและผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการรุนแรงหากติดเชื้อ