โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
ทองคำปรับตัวขึ้นระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์
คืนนี้สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย.
แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways
- ราคาทอง Spot เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ภายหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ ท่ามกลางความกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย นอกจากนี้ดอลลาร์อ่านค่าจากแรงกดดันการแข็งค่าของยูโร ขานรับการคาดการณ์ที่ธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.ค.และก.ย. ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมจากเมื่อวานที่ผ่านมา
- คืนนี้สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนมี.ค.
- แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหว Sideways โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,850 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,840 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,870 ดอลลาร์ และ 1,880 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,865.50 | +12.9 | 1,850/1,840 | 1,870/1,880 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
30,000 | -150 | 29,900/29,750 | 30,250/30,400 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
30,210 | +70 | 29,950/29,840 | 30,300/30,420 |
สามารถเข้าซื้อบริเวณ 1,850 ดอลลาร์ (GF 29,950 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,840 ดอลลาร์ (GF 29,840 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,869.50 | +9.30 | 1,852/1,842 | 1,872/1,882 |
สามารถเข้าซื้อราคา GOM22 ที่ 1,852 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,842 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ค่าเงินบาทเมื่อวานที่ผ่านมาแข็งค่าต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลา 4 วัน ซึ่งค่าเงินบาทแข็งค่าตามทิศทางภูมิภาค เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่า ทั้งนี้ระยะสั้นค่าเงินบาทมีทิศทางแข็งค่าได้ต่อ สำหรับ USD Futures เดือนมิ.ย.65 มีแนวรับที่ 33.80 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 34.35 บาท/ดอลลาร์
News
ไบเดนยันสหรัฐคงจุดยืนคลุมเครือต่อไต้หวันตามเดิม หลังเมื่อวานลั่นพร้อมช่วยหากจีนบุก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ กล่าวในช่วงถ่ายภาพหลังสิ้นสุดการประชุมกับกลุ่ม Quad ณ กรุงโตเกียวว่า สหรัฐจะยังคงมีจุดยืนแบบคลุมเครือต่อไต้หวันไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อถูกถามว่าสหรัฐจะส่งกำลังทหารไปยังไต้หวันหากถูกจีนบุกโจมตีหรือไม่ ปธน.ไบเดนตอบว่า “นโยบายไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด อย่างที่ผมพูดไว้เมื่อวานนี้” คำถามดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก ปธน.ไบเดนกล่าวให้สัญญาว่า สหรัฐจะปกป้องไต้หวันหากจีนพยายามใช้กองกำลังเข้ายึด และเมื่อนักข่าวถามว่าสหรัฐเต็มใจที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมทางการทหารในกรณีที่ไต้หวันโดนบุกหรือไม่
ปธน.ไบเดนกล่าวในการแถลงข่าวหลังจากพบกับนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในกรุงโตเกียว โดยตอบว่า “ใช่ นั่นคือคำมั่นสัญญาที่เราให้ไว้” ความคิดเห็นของปธน.ไบเดนเมื่อวานนี้เผชิญเสียงคัดค้านจากจีนโดยเด็ดขาด เนื่องจากจีนมองว่าไต้หวันเป็นมณฑลหนึ่งที่แปรพักตร์จากจีน และจะกลับมารวมเป็นหนึ่งเดียวกับแผ่นดินใหญ่ในที่สุด ซึ่งอาจด้วยการใช้กำลังบีบบังคับถ้าจำเป็น นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนกล่าวด้วยว่า สหรัฐยังคงมีนโยบายที่จะมุ่งสนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพทั่วทั้งช่องแคบไต้หวันไม่เปลี่ยนแปลง
“เซเลนสกี” เผยต้องการพบ “ปูติน” เพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เขาต้องการจะพบในเวลานี้ เพื่อที่จะยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ปธน.เซเลนสกีกล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (WEF) ที่เมืองดาวอส ผ่านทางวิดีโอลิงก์ว่า “หลังจากที่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน ทำให้การจัดประชุมใด ๆ ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัสเซียกลายเป็นเรื่องยากขึ้น แต่การจะยุติสงครามในครั้งนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มีการพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับปธน.ปูติน ซึ่งนี่อาจเป็นทางเดียวที่จะยุติสงคราม”
ปธน.เซเลนสกีกล่าวว่า การสังหารหมู่ในพื้นที่ที่กองทัพรัสเซียเข้ายึดครองในช่วงเริ่มต้นของสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนอกกรุงเคียฟนั้น ทำให้ยากต่อการจัดการเจรจาระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียและยูเครน แต่เขาไม่ต้องการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ นอกจากการพูดคุยกับปธน.ปูตินโดยตรง “ผมไม่ต้องการพบกับเจ้าหน้าที่คนใดของรัสเซีย ยกเว้นปธน.ปูติน และเฉพาะกรณีเดียวเท่านั้น คือ การยุติสงคราม ไม่มีเหตุผลอื่นสำหรับการพบปะกัน” ปธน.เซเลนสกีกล่าว ทั้งนี้ คณะผู้แทนเจรจาของรัสเซียและยูเครนได้จัดการหารือเป็นระยะนับตั้งแต่รัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. แต่การเจรจาไม่มีความคืบหน้าและหยุดชะงักลงในที่สุด
“พาวเวล” สาบานตนรับตำแหน่งประธานเฟดสมัย 2 เดินหน้าภารกิจควบคุมเงินเฟ้อ
นายเจอโรม พาวเวล เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2 แล้ว หลังจากวุฒิสภาสหรัฐมีมติให้การรับรองนายพาวเวลาด้วยคะแนนเสียงท่วมท้วน วุฒิสภาสหรัฐลงมติด้วยคะแนนเสียง 80-19 เสียง เห็นพ้องให้นายพาวเวลรับตำแหน่งประธานเฟดต่อไปอีก 4 ปี หลังจากที่เขาครบวาระการดำรงตำแหน่งตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา โดยคะแนนเสียงที่นายพาวเวลได้รับจากวุฒิสภาในครั้งนี้ ใกล้เคียงกับเมื่อ 4 ปีก่อนที่เขาได้รับเสียงสนับสนุน 84-13 เสียง
นอกจากนี้ นางลาเอล เบรนาร์ด ยังได้เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งรองประธานเฟด พร้อมด้วยนายฟิลลิป เจฟเฟอร์สัน และนางลิซา คุก ซึ่งเข้ารับตำแหน่งสมาชิกในคณะผู้ว่าการเฟด ทั้งนี้ นายพาวเวลมีภารกิจที่ยากลำบากรออยู่ข้างหน้าในการสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปีโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐประสบภาวะถดถอย หลังจากหดตัวลง 1.4% ในไตรมาส 1/2565 นายพาวเวลเข้ารับตำแหน่งประธานเฟดในเดือนก.พ. 2561 โดยอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอชื่อนายพาวเวลให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน ขณะที่ตลาดการเงินมองว่า นายพาวเวลเป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายพิราบสังกัดพรรครีพับลิกันที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามแนวทางของนางเยลเลน