โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
ทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องต่ำสุดที่ 1,851 ดอลลาร์
คืนนี้สหรัฐไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
แนวโน้มราคาทองคำคาดฟื้นตัวเล็กน้อย
- ราคาทอง Spot เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลดลงต่อเนื่องในระดับต่ำสุดที่ 1,851 ดอลลาร์ ซึ่งนับว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือน โดยราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ท่ามกลางความกังวลที่เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงหลังจากที่รัฐบาลจีนใช้มาตรการล็อกดาว์นเพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ขายทองคำสุทธิ 6.1 ตันจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
- คืนนี้สหรัฐไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่พรุ่งนี้สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 8.1% เมื่อเทียบรายปี จากเพิ่มขึ้น 8.5% เมื่อเทียบรายปี
- แนวโน้มราคาทองคำคาดฟื้นตัวเล็กน้อย โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,845 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,835 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,870 ดอลลาร์ และ 1,880 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,853.30 | -29.69 | 1,845/1,835 | 1,870/1,880 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
30,600 | – | 30,300/30,200 | 30,650/30,800 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
30,550 | -190 | 30,420/30,230 | 30,780/30,990 |
เก็งกำไรฝั่งซื้อใกล้แนวรับบริเวณ 1,845 ดอลลาร์ (GF 30,420 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,835 ดอลลาร์ (GF 30,230 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,859.60 | -10.7 | 1,847/1,837 | 1,872/1,882 |
เก็งกำไรฝั่งซื้อใกล้แนวรับบริเวณ 1,847 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,837 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ค่าเงินบาทเมื่อวานที่ผ่านมาอ่อนค่าต่อเนื่องทะลุ 34.50 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ยังคงแข็งค่าจากปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ทั้งนี้แนวโน้มค่าเงินบาทคาดว่ายังคงอ่อนค่าได้ต่อ สำหรับ USD Futures เดือนมิ.ย.65 มีแนวรับที่ 34 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 35 บาท/ดอลลาร์
News
สหรัฐลงดาบรัสเซียรอบใหม่ คว่ำบาตรสถานีโทรทัศน์-ผู้บริหารก๊าซพรอมแบงก์
สหรัฐเปิดเผยว่าได้ออกมาตรการคว่ำบาตรสถานีโทรทัศน์ของรัสเซีย 3 แห่ง พร้อมทั้งออกคำสั่งห้ามไม่ให้บริษัทอเมริกันให้บริการด้านบัญชีและคำปรึกษาใด ๆ กับรัสเซีย นอกจากนี้ ยังคว่ำบาตรผู้บริหารของธนาคารก๊าซพรอมแบงก์ เพื่อลงโทษการที่รัสเซียใช้กำลังบุกโจมตียูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มาตรการดังกล่าวถือเป็นมาตรการชุดแรกที่คว่ำบาตรบริษัทก๊าซพรอม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกก๊าซรายใหญ่ของรัสเซียและเป็นบริษัทแม่ของธนาคารก๊าซพรอมแบงก์ ขณะที่สหรัฐและชาติพันธมิตรเลี่ยงที่จะใช้มาตรการที่ทำให้การส่งก๊าซไปยุโรปหยุดชะงัก
ทางด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐให้สัมภาษณ์ว่า “มาตรการครั้งนี้ไม่ได้เป็นการคว่ำบาตรอย่างเต็มรูปแบบ เราไม่ได้อายัดทรัพย์สินของธนาคารก๊าซพรอมแบงก์ และไม่ได้ห้ามทำธุรกรรมกับธนาคาร … สิ่งที่เราต้องการบอกก็คือว่า ก๊าซพรอมแบงก์ไม่ใช่สถานที่ ๆ ปลอดภัยสำหรับสินทรัพย์ และเราเลือกคว่ำบาตรเฉพาะผู้บริหารระดับสูงบางส่วนเพื่อสร้างความหวาดหวั่น”
นอกจากนี้ สหรัฐยังเพิ่มผู้บริหารอีก 8 รายของสเบอร์แบงก์ (Sberbank) ซึ่งถือครองทรัพย์สินรวมกันคิดเป็น 1 ใน 3 ของภาคธนาคารรัสเซียลงในบัญชีคว่ำบาตรด้วย ขณะที่ธนาคารมอสโก อินดัสเทรียล แบงก์ (Moscow Industrial Bank) และหน่วยงานในเครืออีก 10 แห่งยังถูกเพิ่มชื่อในบัญชีคว่ำบาตรเช่นกัน เจ้าหน้าที่สหรัฐยังระบุว่า มาตรการควบคุมการส่งออกชุดใหม่มีเป้าหมายมุ่งลดระดับความพยายามของปธน.ปูตินในการก่อสงคราม ซึ่งครอบคลุมถึงการควบคุมการส่งออกเครื่องจักรอุตสาหกรรม, รถแทรกเตอร์, สินค้าประเภทไม้, มอเตอร์ และพัดลม
อังกฤษประกาศคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่ม เตรียมขึ้นภาษีนำเข้าพลาตินัม-พัลลาเดียม
รัฐบาลอังกฤษประกาศว่าจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าพลาตินัมและพาลาเดียมจากรัสเซียและเบลารุส ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ที่พุ่งเป้าตัดท่อน้ำเลี้ยงด้านการค้ามูลค่า 1.7 พันล้านปอนด์ (2.10 หมื่นล้านดอลลาร์) และเพื่อเป็นการกดดันประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ให้ยุติการทำสงครามในยูเครน
ทั้งนี้ รัฐบาลอังกฤษจะปรับขึ้นภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ราว 35% ซึ่งรวมถึงพลาตินัมและพัลลาเดียม พร้อมกับสั่งห้ามการส่งออกสินค้า เช่น เคมีภัณฑ์ พลาสติก ยาง และเครื่องจักรไปยังรัสเซีย ซึ่งมีมูลค่ารวมกัน 250 ล้านปอนด์ (310 ล้านดอลลาร์) โดยรัฐบาลอังกฤษจะออกกฎหมายเพื่อบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ในไม่ช้านี้ อังกฤษร่วมมือกับชาติตะวันตกในการคว่ำบาตรเศรษฐกิจรัสเซีย เพื่อตอบโต้ที่รัสเซียใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน นอกจากนี้ ยังได้สั่งคว่ำบาตรบุคคลและธุรกิจกว่า 1,000 รายแล้ว
ทางด้านรัสเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตแพลตินัมและพัลลาเดียมรายใหญ่ของโลก ยืนกรานว่าการโจมตียูเครนเป็นปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย ซึ่งมุ่งเป้าทำให้ยูเครนเป็นเขตปลอดทหารและขจัดระบอบนาซี นายริชี ซูนัค รัฐมนตรีกระทรวงคลังอังกฤษกล่าวว่า อังกฤษจะคว่ำบาตรการนำเข้าและส่งออกสินค้ามูลค่ากว่า 4 พันล้านปอนด์ เพื่อสร้างสกัดความพยายามในการทำสงครามของปธน.ปูติน ซึ่งถือเป็นมาตรการคว่ำบาตรระลอกที่ 3 นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน
G7 ผนึกกำลังแบนน้ำมันรัสเซีย หวังกดดันยุติสงครามในยูเครน
บรรดาผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมทั้ง 7 หรือ G7 ได้ออกมาให้คำมั่นสัญญาว่าจะสั่งห้ามหรือยุติการนำเข้าน้ำมันรัสเซีย ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดในการกดดันให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน ทั้งนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงานแถลงการณ์ของ G7 ว่า “เราให้คำมั่นสัญญาว่าจะยุติการพึ่งพาพลังงานรัสเซียด้วยการยุติหรือสั่งห้ามการนำเข้าน้ำมันรัสเซีย โดยเราจะรับประกันว่าเราสามารถจัดการเรื่องดังกล่าวได้ทันกาลและเป็นระเบียบ พร้อมใช้วิธีการที่จะทำให้โลกมีเวลาเพียงพอในการหาอุปทานทดแทน” นอกจากนี้ G7 ยังระบุว่า สมาชิกจะใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อห้ามหรือป้องกันการจัดหาบริการสำคัญต่อสิ่งที่รัสเซียพึ่งพาภายใต้ความพยายามในการส่งเสริมการโดดเดี่ยวรัสเซียจากเศรษฐกิจทุกภาคส่วน