โดย: บริษัท จีแคป จำกัด
แนะแนวทางการลงทุน
แนวรับ 1,822 – 1,817- 1,812
แนวต้าน 1,847 – 1,852 – 1,857
ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อย ตามทิศทางราคาโลหะเงิน เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาสัญญาโลหะมีค่าทั้งสองชนิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการดีดตัวยังอยู่ในวงจำกัด โดยมีรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อวานนี้
แนวโน้มช่วงเช้า
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ดอลลาร์ปรับตัวในกรอบแคบๆ ขณะที่นักลงทุนจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้พบปะกับสมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคเดโมแครตที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ ด้วยความหวังที่จะผลักดันมาตรการดังกล่าวให้ผ่านการอนุมัติของสภาคองเกรส แม้เผชิญเสียงท้วงติงเกี่ยวกับวงเงินที่สูงถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์จากสมาชิกพรรครีพับลิกัน
มุมมองทองคำภาคเช้า ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขณะที่สัญญาโลหะเงินดีดตัวขึ้นเช่นกัน
เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาสัญญาโลหะมีค่าทั้งสองชนิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นทำให้สัญญาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบและปิดในแดนบวกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังต้องคอยติดตามตัวเลขที่จะประกาศในรอบสัปดาห์ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ผลผลิตนอกภาคการเกษตร ต้นทุนค่าข้างแรงงานต่อหน่วย คำสั่งซื้อสินค้าโรงงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน รายได้เฉลี่ยตัวชั่วโมงการทำงาน ดุลการค้า เป็นต้น
สรุปภาวะแลกเปลี่ยนเงินตรา
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ดอลลาร์ปรับตัวในกรอบแคบๆ ขณะที่นักลงทุนจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้พบปะกับสมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคเดโมแครตที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ ด้วยความหวังที่จะผลักดันมาตรการดังกล่าวให้ผ่านการอนุมัติของสภาคองเกรส แม้เผชิญเสียงท้วงติงเกี่ยวกับวงเงินที่สูงถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์จากสมาชิกพรรครีพับลิกัน
