โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
ทองถูกกดดันจากดอลลาร์แข็งค่า และ bond yield ปรับตัวขึ้น
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนเม.ย.
แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวลง
- ราคาทอง Spot เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวลง โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นระดับ 3.05% ท่ามกลามความกังวลของอัตราเงินเฟ้อระดับสูงและตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในวันศุกร์นี้ ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ขายทองคำสุทธิ 2.98 ตันจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
- คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนเม.ย. ตลาดคาดว่าจะขาดดุลลดลง 89.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่ขาดดุล 109.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมี.ค.
- แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวลง โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,830 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไป 1,820 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,850 ดอลลาร์ และ 1,860 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,840.4 | -10.64 | 1,830/1,820 | 1,850/1,860 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
30,150 | – | 29,800/29,700 | 30,150/30,300 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
30,200 | -60 | 29,870/29,770 | 30,220/30,360 |
สามารถเข้าซื้อบริเวณ 1,820 ดอลลาร์ (GF 29,770 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,810 ดอลลาร์ (GF 29,640 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,845.80 | -9.10 | 1,832/1,822 | 1,852/1,862 |
สามารถเข้าซื้อราคา GOM22 ที่ 1,822 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,812 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวทรงตัว นักลงทุนรอการประชุมกนง.ในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ระยะสั้นหากค่าเงินบาทไม่ผ่านบริเวณ 34.40 บาท/ดอลลาร์ มีแนวโน้มค่าเงินบาทอาจแข็งค่า สำหรับ USD Futures เดือนมิ.ย.65 มีแนวรับที่ 33.90 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 34.40-34.50 บาท/ดอลลาร์
News
อังกฤษเตรียมส่งเครื่องยิงจรวด M270 ให้ยูเครนใช้สู้ศึกรัสเซีย
รัฐบาลอังกฤษประกาศว่าจะจัดส่งเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง M270 ซึ่งมีพิสัยการยิงไกลถึง 80 กิโลเมตร (50 ไมล์) ให้กับยูเครน โดยเป็นความเคลื่อนไหวที่สอดประสานกับสหรัฐ เพื่อมุ่งรับมือการรุกรานของรัสเซีย นายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐเปิดเผยว่า การสนับสนุนยูเครนของอังกฤษจะเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากยุทธวิธีของรัสเซียพัฒนาขึ้น “เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องศักยภาพสูงนี้จะทำให้ยูเครนปกป้องอธิปไตยจากการโจมตีอันโหดเหี้ยมจากปืนใหญ่พิสัยไกล ซึ่งกองกำลังของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียใช้ถล่มเมืองต่าง ๆ แบบไม่เลือก” นายวอลเลซระบุในแถลงการณ์ ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐจะจัดส่งเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจร M142 หรือ HIMARS ให้กับยูเครน หลังเขาได้รับคำมั่นจากยูเครนว่าจะไม่ใช้อาวุธชนิดดังกล่าวโจมตีดินแดนของรัสเซีย ขณะที่ ปธน.ปูตินระบุว่า การสนับสนุนด้านอาวุธดังกล่าว “ไม่ใช่เรื่องใหม่” แต่เตือนว่ารัสเซียจะตอบโต้ หากสหรัฐสนับสนุนจัดส่งเครื่องกระสุนพิสัยไกลสำหรับใช้กับ HIMARS ให้แก่ยูเครน รัฐบาลอังกฤษยังกล่าวด้วยว่า กองกำลังยูเครนจะถูกฝีกให้ใช้เครื่องยิงจรวดใหม่ดังกล่าวในอังกฤษ หลังก่อนหน้านี้ประกาศว่าจะช่วยฝึกบุคลากรยูเครนเกี่ยวกับวิธีการใช้ยานเกราะ
สหรัฐเล็งยกเลิกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนบางชนิด หวังบรรเทาเงินเฟ้อ
นางจีนา เรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้สั่งให้ทีมงานพิจารณาทางเลือกในการยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนบางชนิดที่มีขึ้นในสมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อสูงในขณะนี้ “เรากำลังพิจารณาเรื่องการยกเลิกภาษีสินค้านำเข้าสินค้าจีนบางชนิด โดยปธน.ไบเดนเป็นผู้สั่งให้เราดำเนินการวิเคราะห์เรื่องดังกล่าวและท่านจะตัดสินใจในภายหลัง” นางเรมอนโดระบุ หลังถูกถามว่าคณะทำงานของปธน.ไบเดนมีแผนยกเลิกเก็บภาษีนำเข้าจากจีน เพื่อผ่อนคลายภาวะเงินเฟ้อหรือไม่ นางเรมอนโดกล่าวว่า “มีผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ของใช้ในครัวเรือน รถจักรยาน และอื่น ๆ ที่อาจเหมาะสม” ในการยกเลิกการจัดเก็บภาษีนำเข้า โดยคณะทำงานได้ตัดสินใจจะคงการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมบางส่วน เพื่อปกป้องแรงงานสหรัฐและอุตสาหกรรมเหล็กกล้า สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงถ้อยแถลงของปธน.ไบเดนว่า เขากำลังพิจารณาที่จะยกเลิกการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ที่เริ่มบังคับใช้ในสมัยอดีตปธน.ทรัมป์ในปี 2561-2562 ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ
สหรัฐ-เกาหลีใต้ผนึกกำลังยิงขีปนาวุธ 8 ลูกเช้า ตอบโต้เกาหลีเหนือ
เกาหลีใต้และสหรัฐผนึกกำลังยิงขีปนาวุธแบบพื้นสู่พื้น (surface-to-surface missiles ) ทั้งหมด 8 ลูกลงสู่นอกชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีใต้ หลังเกาหลีเหนือเพิ่งยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้จำนวน 8 ลูกในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า กองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐได้ทำการยิงขีปนาวุธพื้นสู่พื้นเป็นเวลาประมาณ 10 นาทีตั้งแต่ 4.45 น.ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อตอบโต้กรณีที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 8 ลูกเมื่อวานนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่จากกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ได้ออกมายืนยันเรื่องการยิงระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีกองทัพบก 8 ลูกดังกล่าว โดยการยิงขีปนาวุธร่วมกันของเกาหลีใต้และสหรัฐครั้งนี้ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึง “แสนยานุภาพและความพร้อมในการโจมตีอย่างแม่นยำ” ต่อการปล่อยขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดียุน ซอกยอลของเกาหลีใต้ประกาศว่า เกาหลีใต้จะปฏิบัติต่อเกาหลีเหนือแบบแข็งกร้าวมากยิ่งขึ้นและเห็นพ้องกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐในการประชุมสุดยอดเมื่อเดือนพ.ค. ณ กรุงโซล ในการยกระดับการซ้อมรบร่วมและการผนึกกำลังป้องปราม