โดย : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG)
คำแนะนำ :
หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,778-1,772 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เปิดสถานะซื้อ(ตัดขาดทุนหากหลุด 1,766 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นไม่ผ่านบริเวณ 1,800-1,809 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจพิจารณาการปิดสถานะซื้อ แต่หากผ่านได้สามารถถือสถานะซื้อต่อ
แนวรับ : 1,772 1,766 1,758 แนวต้าน : 1,809 1,821 1,833
ปัจจัยพื้นฐาน :
ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลงเป็นวันที่ 2 ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางกว่าปกติ เนื่องจากตลาดเงิน ตลาดทุนและตลาดทองคำของสหรัฐ ปิดทำการวานนี้ในวันThanksgiving Day ทั้งนี้ ราคาทองคำชะลอการปรับตัวลงหลังจากปรับตัวลดลง 4 วันทำการติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 18-23 พ.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากดัชนีดอลลาร์ที่เกิดการพักตัว ขณะที่สกุลเงินยูโรฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน นอกจากนี้นักลงทุนบางส่วนเริ่มกลับเข้ามาช้อนซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำยังคงเป็นไปอย่างจำกัด นั่นก็เพราะว่าราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากประเด็นใหญ่สุด คือ การคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะเดินหน้าถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการเงินและดำเนินนโยบายการเงินเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1990 ล่าสุด นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์เปิดเผยวานนี้ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะเร่งอัตราการลดวงเงินซื้อพันธบัตรในมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ขึ้นเป็นสองเท่าที่ระดับ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป และจะยุติมาตรการดังกล่าวภายในกลางเดือนมี.ค. 2022 เพื่อจะเปิดทางให้เฟดสามารถเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ตั้งแต่เดือนมิ.ย.2022 ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำยังเป็นไปอย่างจำกัด และมีแรงขายสลับออกมาทุกครั้งเมื่อราคาดีดตัวขึ้น ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับวันนี้ไม่มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ตลาดสหรัฐจะเปิดทำการ แต่จะปิดเร็วกว่าปกติ เนื่องในวัน Black Friday มักจะเป็นอีกวันหนึ่งที่ปริมาณการซื้อขายจะเบาบางเกือบที่สุดของปี
ปัจจัยทางเทคนิค :
ราคาทองคำพยายามทดสอบทรงตัวรักษารักษาระดับไว้ แม้ว่าจะเกิดแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาแต่หากการอ่อนตัวลงยังคงจำกัด และราคาพยายามยืนเหนือโซนแนวรับ 1,778-1,772 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,800-1,809 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หากทะลุไปได้ แนวต้านถัดไปจะอยู่ในโซน 1,821 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน :
สามารถถือสถานะซื้อต่อหากราคาไม่หลุดแนวรับ 1,778-1,772 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือหากรับความเสี่ยงได้สูงอาจเปิดสถานะซื้อเพิ่ม(ตัดขาดทุนหากหลุด 1,766 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ทยอยปิดสถานะซื้อทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นไปไม่ผ่านแนวต้าน 1,800-1,809 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านได้สามารถถือต่อรอไปขายโซน 1,821 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวสารประกอบการลงทุน :
- (+) อินเดียเล็งออกกฎหมายคุมเงินคริปโตแทนการสั่งห้ามโดยสิ้นเชิง อินเดียเตรียมที่จะเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซีฉบับใหม่ในรัฐสภา และบรรดานักลงทุนคาดว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจหมายถึงอนาคตของเงินดิจิทัลในอินเดียซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้ สมาชิกสภานิติบัญญัติของอินเดียอาจเลือกที่จะกำหนดกฎระเบียบที่เข้มงวดกับตลาดเงินคริปโต แทนการสั่งห้ามซื้อขายเงินดิจิทัลโดยสิ้นเชิง นายเอวินาช เชคฮาร์ ซีอีโอร่วมของเซบเพย์ (Zebpay) หนึ่งในตลาดซื้อขายเงินคริปโตใหญ่ที่สุดของอินเดียเปิดเผยกับรายการ Squawk Box Asia ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีในวันนี้ว่า “ผมเชื่อว่า เราจะมีกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น” แถลงการณ์ของรัฐสภาอินเดียฉบับวันที่ 23 พ.ย.แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลมีแผนที่จะเสนอร่างกฎหมายใหม่ที่มุ่งควบคุมสกุลเงินดิจิทัล เมื่อรัฐสภาเริ่มต้นสมัยประชุมฤดูหนาวตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึงนี้
- (+) กระทรวงพาณิชย์จีนโวยสหรัฐคว่ำบาตร 12 บริษัทจีน เชื่อกระทบเศรษฐกิจโลกกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยในวันนี้ว่า จีนไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงที่สหรัฐทำการคว่ำบาตรบริษัทจีน 12 แห่ง และจะดำเนินการอย่างจริงจังในเรื่องนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ซู เจวี่ยถิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน แถลงข่าวว่า แนวคิดเรื่องความมั่นคงของสหรัฐนั้นมากเกินพอดี ทั้งยังกระทำการคว่ำบาตรอย่างไร้กฎเกณฑ์ การกระทำนี้ขาดพื้นฐานของความจริง และการดำเนินการก็ไม่โปร่งใส นอกจากนี้ เธอกล่าวว่า การคว่ำบาตรอบใหม่โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐไม่เป็นไปตามฉันทามติระหว่างผู้นำของทั้งสองประเทศ ไม่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ ทั้งยังบ่อนทำลายความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั่วโลก รวมทั้งกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
- (+) อังกฤษระงับเที่ยวบินจาก 6 ประเทศแอฟริกา หลังพบไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่อังกฤษประกาศระงับเที่ยวบินจาก 6 ประเทศของทวีปแอฟริกาเป็นการชั่วคราว หลังมีรายงานพบเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้ โดยประเทศทั้ง 6 ได้แก่ นามิเบีย, เลโซโท, ซิมบับเว, บอตสวานา, เอสวาตีนี และแอฟริกาใต้
- (+) จีนวอนญี่ปุ่นช่วยหนุนโอลิมปิกฤดูหนาว หลังสหรัฐ,ออสเตรเลียจ่อคว่ำบาตรทางการทูตจีนได้ออกมาเรียกร้องให้ญี่ปุ่นสนับสนุนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่จะเปิดฉากขึ้นในปีหน้า เนื่องจากสหรัฐและชาติประชาธิปไตยอื่น ๆ อยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการทูตต่อการแข่งขันดังกล่าวหรือไม่ นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า “จีนได้ให้การสนับสนุนญี่ปุ่นในการจัดโตเกียวโอลิมปิกอย่างเต็มความสามารถในปีนี้ ฉะนั้น ญี่ปุ่นจึงควรมีพื้นฐานเดียวกัน”
- (+) WHO จัดประชุมวาระพิเศษวันนี้ หลังพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ในแอฟริกาใต้องค์การอนามัยโลก (WHO) เตรียมจัดการประชุมวาระพิเศษในวันนี้ (26 พ.ย.) เพื่อหารือเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่พบในแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์เป็นจำนวนมาก การประชุมวาระพิเศษดังกล่าวมีขึ้น หลังจากนายทอม พีค็อก นักไวรัสวิทยาของอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอนในอังกฤษได้ตรวจพบคลัสเตอร์ขนาดเล็กของผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า B.1.1.529 ซึ่งไวรัสชนิดนี้สามารถหลบภูมิคุ้มกันได้
- (-) “โกลด์แมน แซคส์” คาดเฟดอาจเริ่มลด QE เร็วขึ้นสองเท่าตั้งแต่ม.ค.ปีหน้า ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์เปิดเผยในวันนี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะเร่งอัตราการลดวงเงินซื้อพันธบัตรในมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ขึ้นเป็นสองเท่าที่ระดับ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป และจะยุติมาตรการดังกล่าวภายในกลางเดือนมี.ค. 2565 ทีมนักวิเคราะห์ที่นำโดยแจน แฮตเซียสระบุว่า “การเปิดกว้างที่เพิ่มขึ้นเพื่อเร่งอัตราการปรับลดมาตรการ QE นั้น มีแนวโน้มที่จะสะท้อนถึงเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่เฟดมีความมั่นใจมากขึ้นว่า อัตราการปรับลดมาตรการ QE ที่เร็วขึ้นนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน” แม้เฟดจะเร่งลดโครงการ QE แต่โกลด์แมน แซคส์คาดว่า เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนมิ.ย.รวมทั้งสิ้น 3 ครั้งในปีหน้า รายงานการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 2-3 พ.ย.ที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า ผู้กำหนดนโยบายจะเปิดโอกาสในการเร่งปรับลดมาตรการ QE หากเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง และจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วย
- (-) ฝรั่งเศสเปิดให้ปชช.ฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์สุดสัปดาห์นี้ หวังสกัดโควิดโดยไม่ต้องล็อกดาวน์นายโอลิเวียร์ เวราน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศส ยืนยันในวันนี้ว่า ฝรั่งเศสจะเปิดให้ประชากรผู้ใหญ่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ได้ตั้งแต่ปลายสัปดาห์นี้เป็นต้นไป ซึ่งรัฐบาลหวังว่าทางเลือกดังกล่าวจะช่วยสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
- (+/-) ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการในวันนี้ (25 พ.ย.) เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
