โดย : บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (MTS)
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเริ่มกลับมาทรงตัวที่บริเวณ 1,745 เหรียญ โดยเช้านี้ราคาทองคำยืนเหนือ 1,750 เหรียญได้อีกครั้ง ท่ามกลางการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ หลังจากการประกาศตัวเลขรายงานยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ หรือ Durable Goods Orders m/m ออกมาลดลงกว่าที่คาดการณ์ บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงของสหรัฐฯ
โดยภาพรวมยังเป็นผลต่อเนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยแม้ว่าภาวะเงินเฟ้อจะยังไม่สามารถควบคุมได้ก็ตาม ขณะที่ประธานเฟดบางรายได้แสดงความเห็นว่าควรขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงกว่าเดิม ภาพหลักของดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลดลงหลังจากขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่บริเวณ 109.2 จุด โดยเช้านี้อยู่ที่ 108.35 จุด
ขณะที่ค่าเงินบาทเมื่อวานนี้แกว่งตัวอย่างมาก ขานรับข่าวศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ สั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เพื่อรอวินิจฉัยเป็นเวลา 1 เดือน ส่งผลให้ค่าเงินบาทในช่วงการประกาศอ่อนค่าขึ้นไป โดยเช้านี้ค่าเงินบาทแข็งค่าหลุดระดับ 36 บาท/ดอลลาร์ลงมาอีกครั้ง และลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 35.83 บาท/ดอลลาร์
โดยในเชิงเทคนิคค่าเงินบาทจะมีแนวรับสำคัญที่ 35.80 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งหากหลุดลงไปได้ อาจจะเห็นการกลับมาแข็งตัวของค่าเงินบาทอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ธนาคารแห่งประเทศไทย มองว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจน่าจะกลับมาพลิกฟื้นในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากนักท่องเที่ยวจะกลับมามากขึ้น
ด้านกองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้ถือครองทองเท่าเดิม ปัจจุบันถือครองที่ 984.38 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำมี Technical Rebound ขึ้นมาทดสอบแนวต้านระยะสั้นที่บริเวณ 1,752 เหรียญ โดยหากราคาทองคำสามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือบริเวณ 1,760 เหรียญได้ จะให้ภาพหลักของราคาทองคำสามารถทรงตัวและกลับขึ้นไปได้ วันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในกรอบแนวรับที่ 1,735 เหรียญ และแนวต้านที่ 1,770 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังคงแนะนำลงทุนในกรอบลักษณะ Sideways Down ลงซื้อขึ้นขาย เน้นเทรดเก็งกำไรระยะสั้น จับตาดูการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในวันนี้
– นักลงทุนที่ถือ Long Position
เก็งกำไรในกรอบ เข้าซื้อตามแนวรับและปิดทำกำไรตามแนวต้าน เน้นเทรดระยะสั้น
– นักลงทุนที่ถือ Short Position
รอเปิดสถานะเมื่อราคาขยับขึ้นบริเวณแนวต้านและปิดทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวลง