โดย : บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด(HGF)
ทองปรับขึ้นในระดับสูงสุดรอบ 1 เดือน
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค.
แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวขึ้น
- ราคาทองคำ Spot เมื่อคืนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นในระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ซึ่งตลาดหุ้นสหรัฐได้ปรับตัวลงแรงเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ ทั้งนี้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุด จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด นอกจากนี้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย และการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนยังไม่มีความคืบหน้า ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ถือครองทองคำเท่าเดิมจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
- คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2% จากเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบรายเดือน หรือเพิ่มขึ้น 8.5% จากเพิ่มขึ้น 7.9% เมื่อเทียบรายปี
- แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีแนวรับ 1,940 ดอลลาร์ และแนวรับถัดไปที่ 1,920 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,970 ดอลลาร์ และ 1,980 ดอลลาร์
ราคาทองตลาดโลก
Close | chg. | Support | Resistance |
1,953.40 | +7.6 | 1,940/1,920 | 1,970/1,980 |
ราคาทองแท่ง 96.5%
Close | chg. | Support | Resistance |
31,050 | +200 | 30,800/30,600 | 31,200/31,400 |
โกลด์ฟิวเจอร์ส
Close | chg | Support | Resistance |
31,230 | -30 | 31,000/30,790 | 31,340/31,570 |
การเข้าซื้อราคาทอง Spot รอบใหม่ สามารถเข้าซื้อเมื่อราคา spot ปรับลงมาบริเวณ ที่ 1,920 ดอลลาร์ (GF 30,790 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,910 ดอลลาร์ (GF 30,660 บาท)
โกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์
Close | chg | Support | Resistance |
1,958.70 | -3.90 | 1,942/1,922 | 1,972/1,982 |
การเข้าซื้อราคา GOM22 รอบใหม่ สามารถเข้าซื้อเมื่อราคา GOM22 ปรับลงมาบริเวณ ที่ 1,922 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,912 ดอลลาร์
ค่าเงิน
ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าเล็กน้อย หลังจากที่เงินบาทอ่อนค่ามากสุดในรอบสัปดาห์กว่า ๆ อย่างไรก็ตาม ธุรกรรมยังคงเบาบาง เนื่องจากใกล้วันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งนี้ระยะสั้นค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า สำหรับ USD Futures เดือนมิ.ย.65 มีแนวรับที่ 33.40 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 33.75 บาท/ดอลลาร์
News
“คุโรดะ” คาดเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มฟื้นตัว แม้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่ง
นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงอ่อนแอในระดับหนึ่ง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดี คาดว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว แม้จะได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นก็ตาม
นายคุโรดะกล่าวในการประชุมกับผู้จัดการสาขาของ BOJ ว่า ราคาพลังงานและต้นทุนวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้นจะทำให้อัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในไม่อีกกี่เดือนข้างหน้า โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานของญี่ปุ่นซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม นายคุโรดะได้เตือนว่า ยังคงมีความไม่แน่นอนสูงมากว่าวิกฤติยูเครนจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์และเศรษฐกิจญี่ปุ่นมากเพียงใด “เศรษฐกิจญี่ปุ่นอยู่ในทิศทางการฟื้นตัว แม้ยังคงมีความอ่อนแออยู่บางส่วน โดยสาเหตุหลักเป็นเพราะผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19” เขากล่าว
นายคุโรดะเสริมว่า “ในขณะที่แรงกดดันช่วงขาลงของการอุปโภคในภาคบริการและผลกระทบของภาวะอุปทานขาดแคลนที่เริ่มลดลงนั้น การฟื้นตัวของอุปสงค์ในต่างประเทศ รวมทั้งนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล มีแนวโน้มที่จะช่วยให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มสูงขึ้น”
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ปัจจุบัน ญี่ปุ่นไม่ได้ใช้มาตรการคุมโควิด-19 ใด ๆ หลังจากที่ยกเลิกมาตรการกึ่งฉุกเฉินเมื่อเดือนที่แล้ว แต่นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้เตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้ออาจจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีก
สหรัฐให้คำมั่นจัดหาอาวุธที่จำเป็นให้ยูเครนเพื่อตอบโต้รัสเซีย
นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐเปิดเผย ว่า สหรัฐมุ่งมั่นที่จะจัดหา “อาวุธที่จำเป็น” ให้กับยูเครนเพื่อป้องกันการคุกคามจากรัสเซีย หลังยูเครนพยายามมองหาความช่วยเหลือทางการทหารเพิ่มเติมจากชาติตะวันตก
นายซัลลิแวนกล่าวว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ จะส่งอาวุธเพิ่มเติมไปยังยูเครนเพื่อป้องกันไม่ให้รัสเซียยึดดินแดนและโจมตีพลเมืองได้อีก โดยทางสหรัฐระบุว่าการกระทำดังกล่าวของรัสเซียเป็นอาชญากรรมสงคราม นายซัลลิแวนกล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ “This Week” ทางสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า “เราจะส่งอาวุธที่จำเป็นให้กับยูเครนเพื่อป้องกันไม่ให้ทหารรัสเซียยึดเมืองต่าง ๆ เพื่อก่ออาชญากรรมได้อีก”
รัสเซียขู่ดำเนินการทางกฎหมายหากถูกกดดันให้ต้องผิดนัดชำระหนี้
นายแอนตัน ซิลูอานอฟ รัฐมนตรีคลังรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียจะดำเนินการทางกฎหมายหากชาติตะวันตกพยายามกดดันให้รัสเซียต้องผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่แข็งกร้าวมากขึ้นของรัสเซียในขณะที่กำลังงัดข้อทางการเงินกับชาติตะวันตกจากประเด็นยูเครน “แน่นอนว่าเราจะฟ้องร้องดำเนินคดี เพราะเราต้องใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อรับประกันว่าบรรดานักลงทุนได้รับการชำระดอกเบี้ยและเงินต้นพันธบัตรรัฐบาลรัสเซีย”
นายซิลูอานอฟกล่าวกับหนังสือพิมพ์อิซเวสเตียซึ่งสนับสนุนรัฐบาลรัสเซีย “เราจะแสดงหลักฐานการชำระเงินต่อศาลเพื่อยืนยันความพยายามของเราในการชำระเงินทั้งด้วยสกุลเงินต่างชาติและสกุลเงินรูเบิล โดยกรณีดังกล่าวไม่ใช่กระบวนการที่ง่าย แต่เราต้องพยายามพิสูจน์ความจริง แม้ต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมายเพียงใดก็ตาม”
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รัสเซียเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ศตวรรษ หลังรัสเซียพยายามชำระหนี้พันธบัตรรัฐบาลระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินรูเบิลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แม้ว่าจริง ๆ แล้วต้องชำระด้วยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ นายซิลูอานอฟกล่าวว่า รัสเซียจะทำทุกวิถีทางที่ทำได้ เพื่อรับประกันว่าบรรดาเจ้าหนี้จะได้รับการชำระหนี้ “รัสเซียได้พยายามที่จะชำระเงินแก่บรรดาเจ้าหนี้ต่างประเทศด้วยศรัทธาอันแรงกล้า แต่บรรดาชาติตะวันตกได้ใช้ทุกวิธีการเพื่อทำให้เราต้องผิดนัดชำระหนี้”